วันนี้ (11 สิงหาคม) วิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้อง บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมวันนี้ ซึ่งมีการเรียก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจง โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชี้แจงประเด็นการเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า ระบบตำรวจ ถ้าสั่งการหรือมอบอำนาจอะไรไปแล้วถือเป็นการมอบสิทธิ์ขาด จะไม่ได้ติดตามหรือรับรายงาน รวมถึงการมอบอำนาจให้ พล.ต.ท. เพิ่มพูน ในคดีของวรยุทธได้ดำเนินการสั่งการด้วยอำนาจขาด
คณะกรรมการจึงให้ข้อสังเกตกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ตาม พ.ร.บ. บริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 40 (2) และ พ.ร.บ. ตำรวจ มาตรา 74 วรรค 2 มีข้อกำหนดว่าด้วยเรื่องการมอบอำนาจ ติดตามดูแล และตรวจสอบ โดยหากมอบอำนาจสิทธิ์ขาดโดยไม่ดูแลและไม่ตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขอย่างไร รวมทั้งการถอนอำนาจ หากพบว่ามีข้อผิดพลาดจะต้องแก้ไขทันที
ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ยอมรับ วิชาจึงยกตัวอย่างคดีที่คล้ายลักษณะนี้ ซึ่งได้เคยวางหลักการว่าแม้ผู้บังคับบัญชาจะไม่รู้เรื่อง แต่สามารถให้คำแนะนำหรือปรึกษาผู้รู้ได้ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์กร แม้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะต้องปฏิบัติวิธีนี้เหมือนกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงรับปาก 2 เรื่อง คือจะแก้ไขตรวจสอบปัญหาระบบการมอบอำนาจโดยด่วน ไม่ให้มีช่องโหว่เกิดขึ้นแบบกรณีนี้ โดยเรียกสำนวนคดีวรยุทธมาตรวจสอบและลงนามในข้อตกลงไว้แล้ว
นอกจากนี้วิชายังกล่าวอีกว่าคดีนี้ประชาชนส่วนใหญ่ฝากความหวังไว้มาก และต้องการให้สิ่งที่ค้างคากระจ่าง ไม่มีการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล หากสามารถทบทวนการตรวจสอบคดีนี้และจะไปเปลี่ยนแปลงให้มีการสั่งฟ้องได้โดยยกเลิกกระบวนการคำสั่งไม่ฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ยินดีจะทำ ซึ่งรับปากอย่างลูกผู้ชาย และทำการลงนามข้อตกลง หากผลตรวจสอบของตำรวจพบว่ามีคนผิดจริงก็พร้อมลงโทษให้ถึงที่สุด จะไม่ละเว้นใครทั้งสิ้น
หลังจากการประชุมวันนี้เสร็จสิ้น ตนได้ทำสรุปรายงานการตรวจสอบคณะกรรมการครบ 10 วันให้กับนายกรัฐมนตรีทันที โดยเอกสารสรุปประเด็นข้อสงสัยที่ได้ตรวจสอบไม่เกิน 2 แผ่นกระดาษ เพราะหากเสนอไปมากกว่านั้น นายกรัฐมนตรีก็ไม่อ่าน ซึ่งตนเข้าใจในความเป็นผู้นำของ พล.อ. ประยุทธ์ ว่าไม่มีเวลามาอ่านเอกสารจำนวนมาก
ทั้งนี้วิชายังกล่าวถึงการยื่นหนังสื่อลาออกจากราชการของ เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดว่ารับทราบแล้วว่ามีการยื่นหนังสือลาออก แต่ยังไม่มีผลทางราชการ และย้ำว่าแม้จะยื่นหนังสือลาออก โดยให้เหตุผลว่าแสดงสปิริต รักษาองค์กร แต่การตรวจสอบยังจะต้องมีต่อไปตามอำนาจคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ซึ่งรายละเอียดหรือเหตุผลอื่นตนยังไม่ขอแสดงความเห็น เพราะคณะทำงานจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป แต่ย้ำว่าการทำงานของคณะกรรมการคืบหน้าที่สุดแล้ว
ตามที่ได้มีการจัดทำรูปแบบการส่งข้อมูลเข้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในกรณีนี้ที่อยู่ในความสนใจ ซึ่งกำหนดเป็น QR Code และสามารถส่งไปยังอีเมล [email protected]
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์