เป็นประเด็นดังขัดใจผู้คน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกมายืนยันว่ามาตรการแก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคาได้ผล จากการตรวจสอบไม่พบการขายเกินราคา 80 บาท
ข้อมูลที่ทางกองสลากฯ เปิดเผย สวนทางกับประสบการณ์ของผู้คนโดยทั่วไปที่สนใจเสี่ยงโชค ซึ่งยืนยันกันเต็มโลกออนไลน์ว่าการขายสลากฯ เกินราคายังเป็นเรื่องปกติ พบเห็นได้โดยทั่วไป
วันนี้ (13 พ.ย.) THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจแผงลอตเตอรี่ย่านคอกวัว ถนนราชดำเนิน แหล่งรวมยี่ปั๊วขายส่งลอตเตอรี่ชื่อดัง ที่นี่มีทั้งผู้ค้ารายย่อย และคนทั่วไปเดินเลือกหาเลขเด็ดในดวงใจหวังลุ้นเสี่ยงโชคงวดวันที่ 16 พ.ย. นี้
ที่แยกคอกวัว เราพบผู้ค้ารายย่อยกลุ่มใหญ่ กำลังง่วนกับการจัดเรียงลอตเตอรี่ใส่แผงไม้เตรียมเดินเร่ขาย เมื่อเดินเข้าไปพูดคุยจึงทราบว่าพวกเขาเดินทางมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งของตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
“มากันกี่คนครับคุณป้า?” เราถาม
“มากันทั้งหมู่บ้าน มีแต่คนแก่มาไม่ไหว ถ้ามาไหวก็คงมา” ป้าตอบพร้อมเสียงหัวเราะ
คุณป้าจากวังสะพุง ทำอาชีพเดินขายลอตเตอรี่ในกรุงเทพฯ มากว่า 30 ปีแล้ว
คุณป้าเล่าว่า ที่เมืองเลยมีแต่คนขายหวยแต่ไม่มีคนซื้อ ตัวเองมารับสลากฯ ที่คอกวัว จากนั้นก็เดินเร่ขายแถวเทเวศร์ ที่วังสะพุงชาวบ้านขายหวยกันทั้งหมู่บ้าน กระจายกันไปทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้
คุณป้ากับสามีทำอาชีพขายลอตเตอรี่เลี้ยงชีพ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. มารับสลากฯ เร่ขาย พอหวยออกวันที่ 16 ก็กลับบ้านไปทำไร่ทำนา
ต้นตอขายเกินราคา ยี่ปั๊วขายส่งก็เกิน 80 บาทแล้ว
ขายใบเท่าไหร่ครับ ?
“ใบละ 100 จ้า” คุณป้าตอบเสียงอ่อย
คุณป้าเผยว่า ต้นทุนเฉลี่ยของลอตเตอรี่นั้น ถ้าเป็นหวยชุดไม่เคยต่ำกว่า 90 บาท ถ้าต่ำกว่า 90 ก็จะเป็นหวยเล่ม หรือลอตเตอรี่ใบเดียว เลขชุดสำหรับรายย่อยจะมีชุดละ 3 ใบบ้าง 5 ใบบ้าง แต่ถ้าเป็นเลขชุด 10 ใบจะเป็นผู้ค้าแผงใหญ่หน่อย ซึ่งเลขชุดจะขายดีกว่าเพราะคนนิยมซื้อเป็นชุด ที่สำคัญคนขายเองก็ได้กำไรดีกว่าด้วย
สำหรับเลขชุดนั้น ต้นทุนที่รับจากยี่ปั๊วมา คือถ้าเป็นชุด 3 ใบ ต้นทุนอยู่ที่ใบละ 92 บาท ถ้าเป็นชุด 5 ใบก็แพงขึ้นมาอีก ตกใบละ 95 บาท
รับมาต้นทุนเท่านี้ เดินขายใบละ 100 บาท ก็แทบไม่ได้อะไรอยู่แล้ว
“ถามว่าขายได้ไหม ก็พอขายได้บ้าง เพราะขายมานานก็มีลูกค้าประจำ ก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเรารับมาแพง แต่บางคนเขาไม่เข้าใจ เขาต่อว่าเราก็มี เราก็ต้องเฉยๆ ไป เพราะเราผิดจริง ถ้ามีปัญหาเราก็ไม่ขาย”
เสี่ยงถูกล่อซื้อเจอปรับ 5,000-10,000 บาท
คุณป้าวังสะพุงเล่าต่อว่า เฉลี่ยงวดหนึ่งขายได้กำไร 3,000 บาท ต้องมากับสามี 2 คนถึงจะคุ้มค่า เพราะจะได้กำไรต่องวดที่ 6,000 บาท แต่ถ้าหักต้นทุนค่าเดินทางและกินอยู่ในกรุงเทพฯ ก็จะเหลือกำไรจริงๆ ไม่ถึง 6,000 บาท
“ปัญหาคือยี่ปั๊วเขาส่งเรามาเกิน 80 บาทอยู่แล้ว เราอยากได้โควตาเป็นของเราเอง ราคาโควตาอยู่ที่ 70 บาท 40 สตางค์ เรามาเดินขาย 80 บาทสบายๆ เลย เราก็ไม่เหนื่อยด้วย ไม่ต้องขายแบบหลบๆ ซ่อนๆ” คุณป้าจากวังสะพุง เปิดใจ
คุณป้าจากวังสะพุงบอกด้วยว่า เงินที่นำมาลงทุนก็กู้ ธกส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพราะตัวเองเป็นเกษตรกรเลยเป็นสมาชิก ธกส. อยู่แล้ว หรือไม่ก็กู้เถ้าแก่ซึ่งคิดดอกเบี้ย 200 บาท ต่อเงินต้น 10,000 บาท
“เดินเร่ขายก็กลัวถูกล่อซื้อ เพราะถ้าถูกจับแต่ละครั้งต้องเสียค่าปรับ 5,000-10,000 บาท ถ้าโดนก็ร้องไห้โฮเลย เพราะกำไรต่องวดเราก็ได้ไม่ถึง 5,000 บาท ถ้าถูกจับก็ต้องขอผ่อนผันกับเถ้าแก่ งวดหน้าก็ต้องมาขายใช้หนี้เขาอีก” แม่ค้าลอตเตอรี่จากวังสะพุงเปิดใจ
เปิดขั้นตอนกองสลากฯ ซื้อตรงต้นทุน 70.40 บาท ไม่ต้องผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว
ที่ประชุมสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) มีมติให้สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลากฯ โดยกำหนดราคาคู่ละ 70.40 บาท สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ 1. การซื้อตรง ซึ่งคือสลากฯ ที่เหลือจากการจัดสรรโควตา (74 ล้านฉบับ) โดยแต่ละงวดมีสลากฯ เหลือประมาณ 1 ล้านฉบับ
และ 2. การจองซื้อ คือสลากฯ ที่สำนักงานสลากฯ จะพิมพ์เพิ่มตามจำนวนที่จองไว้สำหรับงวดถัดไป โดยผู้สั่งซื้อจะได้รับการจัดสรรก็ต่อเมื่อมียอดสั่งจองครบทุก 10,000 เล่มคู่ หรือ 1 ล้านฉบับ หากไม่ครบก็ไม่มีการพิมพ์สลากฯ เพิ่มตามคำสั่งจอง ธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินคืนพร้อมค่าธรรมเนียมภายในวันสุดท้ายของการจอง
ทั้งนี้ ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการนี้ ต้องลงทะเบียนซื้อหรือจองซื้อสลากฯ ล่วงหน้า ผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย 1,200 แห่งทั่วประเทศ, ตู้ ATM และระบบ Netbank (อินเทอร์เน็ต) รวมทั้งเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ (www.glo.or.th)
สำหรับการจองซื้อขั้นต่ำ 5 เล่มต่อราย (1 เล่มมี 100 ฉบับ) สูงสุดไม่เกิน 50 เล่มต่อราย ภายใต้ ‘โครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล’ เป็นโครงการเรือธงในการแก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคาของ คสช. เริ่มตั้งแต่ปี 2558
ผู้ค้ารายย่อยเผยโควตา 5 เล่ม ในทางปฏิบัติขายไม่พอเลี้ยงชีพ
ผู้ค้ารายย่อยย่านคอกวัว เปิดใจกับ THE STANDARD ว่าทุกครั้งที่มีการเปิดให้รับตรงก็ไปทุกครั้งแต่ไม่เคยได้ อีกทั้งปัญหาคือการให้โควตาซื้อตรงกับรายย่อยเพียง 5 เล่ม (500 ใบ) ซึ่งในทางปฏิบัติไม่เพียงพอต่อการขายให้ได้กำไรเลี้ยงชีพ
เนื่องจากขั้นต่ำที่จะได้กำไรพออยู่ได้คือ 10 เล่ม (1,000 ใบ) ดังนั้นในทางปฏิบัติรายย่อยก็ต้องไปรับจากยี่ปั๊วอีก 5 เล่ม ในต้นทุนที่แพงกว่า 80 บาทมาคละกันขาย ดังนั้นราคาขายปีกรายย่อยก็เกินกว่า 80 บาทอยู่ดี
ผู้ค้ารายย่อยเผยอีกว่า ในความเป็นจริงแม้จะได้โควตาตรง 5 เล่ม แต่ก็ต้องไปรับเลขชุด (ซึ่งขายดี) จากยี่ปั๊วมาขายด้วยอยู่ดี เพราะโควตาตรงของรายย่อยไม่มีเลขชุด สุดท้ายก็ขายกันเกิน 80 บาทอยู่ดี และลูกค้าประจำก็เข้าใจ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่ขายให้
ขณะที่โควต้าจองซื้อกับธนาคารกรุงไทย หรือที่รายย่อยเรียกกันว่า ‘หวยกด’ (เพราะต้องไปกดจองที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย) ผู้ค้ารายย่อยเผยว่า สมมติต้องไปกดจองวันที่ 15 แต่ในความเป็นจริงต้องไปรอคิวกันตั้งแต่ 1 ทุ่มของวันที่ 14 ช่วงหลังในบางพื้นที่มีปัญหามาเฟียมาข่มขู่แย่งกด เพื่อนผู้ค้าเคยไปเฝ้ารอกดหวยตู้ย่านอ่อนนุช ถึงขั้นถูกวัยรุ่นแทงบาดเจ็บกันมาแล้ว ช่วงหลังหลายคนกลัวไม่กล้าไปกดกันอีก
กองสลากฯ เตรียมแก้กฎหมายลงโทษพ่อค้าคนกลาง ต้นตอหวยแพง
พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงปัญหาการขายสลากฯ เกินราคา ว่าเกิดจากการที่ผู้ได้รับโควตาสลากฯ นำไปขายต่อให้พ่อค้าคนกลาง เพื่อรวมชุดและนำไปจำหน่ายต่อในราคาแพง ขอเรียนว่า เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการกำหนดบทลงโทษเกี่ยวกับพ่อค้าคนกลาง หรือผู้ที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ราคาสลากฯ บิดเบือนไปจากที่ควรจะเป็น สำนักงานฯ จึงได้เสนอประเด็นการกำหนดบทลงโทษผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ในร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงในปัจจุบัน
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่าการจำหน่ายสลากฯ ของสำนักงาน เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากพบการกระทำที่เป็นการทุจริต ขอทุกท่านอย่างได้นิ่งเฉย โปรดแจ้งที่ศูนย์รับแจ้งเรื่องราวร้องทุก 0 2345 1466 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการรณรงค์ไม่ซื้อสลากฯ เกินราคา 80 บาทนั้น สำนักงานฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการร่วมรณรงค์กับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน อย่างไรก็ตาม หากได้รับความร่วมมือจากคนสำคัญที่สุดคือ ประชาชนทุกท่านร่วมรณรงค์ไม่ซื้อสลากฯ เกินราคาอย่างเด็ดขาด การแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็จะสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วและกว้างขวางครอบคลุมทั่วประเทศเกิดประโยชน์แก่ทุกคน