ลองสังเกตดูว่า… ทุกวันนี้อะไรที่เราคิดว่า ‘มั่นคง’ มักเปลี่ยนแปลงได้เสมอ งานที่เคยมั่นใจอาจหายไปในชั่วข้ามคืน เงินเก็บที่เคยคิดว่าพอ ก็สั่นคลอนได้เพราะการเจ็บป่วยหรือเหตุไม่คาดฝัน แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้มีโอกาสเกิดไม่มากนัก แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และกับใครบ้าง
ในโลกที่ความแน่นอนหายากขึ้นทุกวัน คำถามคือ…เราจะมีอะไรไว้ค้ำประกันชีวิตได้บ้าง?
หนึ่งในเครื่องมือสร้างความมั่นคงที่น่าสนใจและถูกพูดถึงเสมอ คือ ‘ประกันชีวิตตลอดชีพ’ (Whole Life Insurance) ซึ่งต่างจากภาพจำของ ‘ประกัน’ ที่หลายคนมองว่าเป็นแค่รายจ่ายเปล่าๆ เพราะประกันชีวิตรูปแบบนี้ มีบทบาททั้งด้านความคุ้มครองและการเงินระยะยาว
ประกันตลอดชีพคืออะไร
ประกันชีวิตตลอดชีพ เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่คุ้มครองไปจนถึงอายุสูงสุดที่บริษัทกำหนด เช่น 90 ปี 99 ปี ในอดีตประกันชีวิตตลอดชีพมักคุ้มครองถึงอายุ 80 ปี เป็นส่วนใหญ่ แต่จากการที่คนเรามีอายุที่ยืนยาวขึ้นเรื่อยๆ ประกันชีวิตตลอดชีพในปัจจุบันจึงขยายให้ครอบคลุมอายุที่ยืนยาวขึ้น จึงเป็นความคุ้มครองแบบ ‘ตลอดชีพ’ ตามชื่อจริงๆ
วิธีการทำงานของประกันชีวิตตลอดชีพ คือ ผู้เอาประกันจ่ายเบี้ยในระยะเวลาที่กำหนด (นิยมกำหนดระยะเวลา 20 ปี หรือ 25 ปี) เมื่อชำระเบี้ยครบตามที่กำหนดแล้วก็ไม่ต้องจ่ายต่อ แต่ยังได้รับความคุ้มครองชีวิตยาวไปจนสิ้นสุดสัญญา โดย
- ถ้าเสียชีวิตก่อน ผู้รับผลประโยชน์ อาทิ ครอบครัวจะได้รับจำนวนเงินตามทุนประกันที่ระบุไว้ในสัญญา
- ถ้าอยู่ครบสัญญา ผู้ทำประกันจะได้รับเงินครบกำหนดหรือมูลค่าเงินสดที่ระบุไว้ ซึ่งมักไม่ต่ำกว่าทุนประกันชีวิตที่ระบุไว้ในสัญญา
กล่าวง่าย ๆ คือ เมื่อจ่ายเบี้ยประกันครบถ้วน ยังไงก็มีเงินก้อนจำนวนที่แน่นอนรออยู่
ประกันชีวิตตลอดชีพตอบโจทย์ความต้องการอย่างไร
สิ่งที่ทำให้ประกันชีวิตตลอดชีพมีความพิเศษคือการสร้างความมั่นคงให้ชีวิตทางการเงินในแบบที่ประกันรูปแบบอื่นทำไม่ได้ กรมธรรม์ประเภทนี้ไม่หมดอายุ และการันตีว่าครอบครัวจะได้รับเงินก้อนจำนวนที่แน่นอน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อใด
พร้อมกันนั้นยังทำหน้าที่เสมือนการออมระยะยาว มูลค่าเงินสดในกรมธรรม์จะค่อยๆ สะสมจากเบี้ยประกันส่วนที่เป็นเงินออมรวมถึงผลตอบแทนต่างๆ และเติบโตกลายเป็นเงินก้อน ขณะเดียวกันทุนประกันที่แน่นอนก็ช่วยให้การวางแผนมรดกเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินพอส่งต่อหรือไม่ และเบี้ยประกันที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ เบี้ยประกันบางส่วนยังนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
อะไรทำให้ประกันชีวิตตลอดชีพ เหมาะกับแผนการเงิน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนเลือกประกันชีวิตตลอดชีพ คือ ต้นทุนที่คงที่และสามารถคาดการณ์ได้ไม่ผันผวนเหมือนการลงทุน ทำให้สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ง่าย เพราะกำหนดจำนวนเงินที่จะได้รับไว้ชัดเจน
นอกจากนี้ยังสร้างวินัยการออมระยะยาวโดยอัตโนมัติ สำหรับคนที่อาจไม่เก่งเรื่องเก็บเงิน กรมธรรม์คือการบังคับออม ที่ทำงานแทนตัวเรา และเมื่อเงินสะสมในกรมธรรม์โตขึ้น ก็สามารถนับเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในพอร์ตการเงิน เปรียบได้กับพันธบัตรหรือเงินฝากที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีความคุ้มครองชีวิตให้ด้วย
ในแง่ภาษีและการส่งต่อทรัพย์สิน ประกันชีวิตตลอดชีพก็ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน เบี้ยบางส่วนใช้ลดหย่อนภาษีได้ ขณะที่ทุนประกันที่ถูกจ่ายออกไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็คือมรดกที่ส่งตรงถึงครอบครัวโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน ประกันชีวิตตลอดชีพจึงไม่เพียงช่วยสร้างความมั่นคงให้กับคนส่วนใหญ่ แต่ยังเป็นทางเลือกในการส่งต่อทรัพย์สินสำหรับผู้ที่มีความมั่นคงอยู่แล้วเช่นกัน
ประกันชีวิตตลอดชีพ เหมาะกับใคร และควรเริ่มทำเมื่อไหร่
ถ้าคุณอยู่ในหนึ่งในกลุ่มเหล่านี้ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพอาจเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับแผนการเงินของคุณ
1. พ่อแม่ที่อยากวางแผนมรดก : ช่วยสร้างเงินก้อนแน่นอนให้ลูกหลาน แม้วันนั้นเราจะไม่ได้อยู่แล้ว
2. ผู้สูงอายุที่อยากจัดการทรัพย์สิน : ช่วยให้การส่งต่อมรดกเรียบง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อนเหมือนสินทรัพย์รูปแบบอื่น ไม่ต้องกังวลกับปัญหาในการจัดการมรดก
3. คนวัยทำงานที่มีรายได้มั่นคง : ช่วยวางรากฐานการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการออมที่มาพร้อมความคุ้มครองชีวิต
4. คนที่ไม่อยากเสี่ยงกับการลงทุนผันผวน : การแบ่งเงินออมบางส่วนเป็นประกันชีวิตตลอดชีพ ช่วยล็อกความมั่นใจว่าจะมีเงินก้อนรออยู่ โดยไม่ต้องลุ้นกับตลาดที่ขึ้นๆ ลงๆ จากการนำเงินทั้งหมดไปลงทุน
ดังนั้น เราสามารถเริ่มต้นทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ได้ทันทีที่เรามีความต้องการต่างๆ เหล่านี้
ประกันชีวิตตลอดชีพในแผนการเงิน
ในเชิงการวางแผน ประกันชีวิตตลอดชีพถูกใช้ได้หลายแบบ บางคนเลือกใช้เป็นกองทุนเกษียณ เมื่อครบกำหนดก็เปลี่ยนเป็นเงินใช้ชีวิตหลังเลิกทำงาน บางคนใช้เป็นกองมรดกที่ส่งต่อให้ทายาทอย่างมั่นใจ และบางคนใช้เป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ในพอร์ต เพื่อบาลานซ์กับการลงทุนที่เสี่ยงกว่า
ที่สำคัญ มูลค่าเงินสดยังสามารถกู้ยืมออกมาใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกกรมธรรม์ทั้งหมด ถือเป็นการเสริมสภาพคล่องทางการเงินที่หลายคนคาดไม่ถึง
ข้อควรพิจารณา / สิ่งที่ควรรู้เมื่อเลือกประกันชีวิตตลอดชีพ
ระยะเวลาจ่ายเบี้ยมีผลสำคัญ : จ่ายสั้นจบเร็ว เบี้ยอาจสูงในแต่ละปี แต่รวมแล้วอาจคุ้มกว่าในระยะยาว ถ้าจ่ายนาน เบี้ยรายปีอาจจะต่ำแต่รวมแล้วจ่ายได้มากกว่า
ทุนประกันชีวิต (จำนวนเงินเอาประกันภัย’) สำคัญมาก : ต้องดูว่าเงินจำนวนนี้พอที่จะช่วยครอบครัว /หนี้สิน /ค่าใช้จ่ายเมื่อไม่มีคุณอยู่แล้วหรือไม่
เงื่อนไขกรณีเสียชีวิต : มีบางกรมธรรม์ที่ให้ค่าคุ้มครองจากอุบัติเหตุสูงกว่า หรือมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ‘ไม่ต้องตรวจสุขภาพ’ หรือ ‘ตอบคำถามสุขภาพ’ ซึ่งส่งผลต่อการรับประกันและเบี้ยประกัน
เงื่อนไขเมื่อครบอายุกรมธรรม์ (ครบสัญญา) : บางกรมธรรม์ให้เงิน ‘ครบสัญญา’ (เงินเอาประกัน) บางแบบอาจมี ‘เงินคืนระหว่างปี’ หรือ ‘เงินปันผล’ เพิ่มเติม
มูลค่าเวนคืน : ถ้าลูกค้าอยากเลิกกรมธรรม์ก่อนอายุครบ อาจได้เงินคืนบางส่วน (เวนคืน) แต่มักจะถูกค่าธรรมเนียม /ลดมูลค่ามาก เพราะจ่ายเบี้ยมาไม่ครบวงจร
ภาพ: Colin Anderson Productions pty ltd / Getty Images


