สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ประกาศตั้ง กีเก้ เซเตียน เป็นโค้ชคนใหม่ของทีมแทนที่ เอร์เนสโต บัลเบร์เด ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่งด้วยกัน
โดยหลังจากที่มีความเคลื่อนไหวในแคมป์คัมป์นูตลอดวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อทางด้านบอร์ดบริหารของสโมสรได้พบกับบัลเบร์เด เพื่อแจ้งการตัดสินใจที่จะปลดออกจากตำแหน่งโค้ชของทีม ด้วยเหตุผลในเรื่องของผลงานที่ย่ำแย่และสโมสรกำลังตกอยู่ใต้วิกฤตในเวลานี้ โดยเฉพาะหลังพ่ายต่อแอตเลติโก มาดริดในศึกสแปนิชซูเปอร์คัพ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับ บัลเบร์เด แม้จะพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยติดต่อกันนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในทีมต่อจาก หลุยส์ เอ็นริเก เมื่อปี 2017 และยังนำจ่าฝูงในลีกขณะนี้ แต่ผลงานย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นของบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีกระแสเรียกร้องจากแฟนบอลให้ทำการเปลี่ยนแปลง และสุดท้ายอดีตโค้ชแอธเลติก บิลเบา จึงกลายเป็นโค้ชของบาร์ซา คนแรกนับตั้งแต่ หลุยส์ ฟาน ฮาล ที่ถูกปลดกลางฤดูกาลเมื่อปี 2003
ก่อนหน้านี้บาร์เซโลนาพยายามทาบทาม ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานตลอดกาลของสโมสรกลับมารับตำแหน่ง โดยการเจรจากลับถูกเปิดเผยโดยไม่ได้แจ้งให้บัลเบร์เดรู้ และส่งผลให้อดีตมิดฟิลด์วัย 38 ปีตัดสินใจที่จะปฏิเสธข้อเสนอในนาทีสุดท้าย โดยขออยู่คุมอัลซาดด์ในกาตาร์ต่อไปตามเดิม
นอกจากนี้บาร์ซายังมีการทาบทาม โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวดัตช์ อดีตปราการหลังของทีมในยุค 90 รวมถึงรายของ เมาริซิโอ โปเชตติโน อดีตผู้จัดการทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่เป็นกุนซือระดับโลกที่ว่างงานในเวลานี้ และโค้ชทีมบีอย่าง ฟรานซิสโก การ์เซีย ปิมิเอนตา ที่อยู่ในข่ายด้วย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจแต่งตั้ง กีเก้ เซเตียน อดีตโค้ชของเรอัล เบติส วัย 61 ปีเข้ามาคุมทีมแทน
ใครคือกีเก้ เซเตียน?
เซเตียนเป็นอดีตมิดฟิลด์พรสวรรค์ของทีมราซิง ซานตานเดร์ ซึ่งเป็นสโมสรในบ้านเกิดของเขา โดยในสมัยที่เป็นผู้เล่น ทำผลงานโดดเด่นยิงไปถึง 43 ประตู จากการลงสนาม 205 นัด ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับแอตเลติโก มาดริด, โลโกรนเยส และแขวนสตั๊ดกับ เลบานเต้ สโมสรสุดท้ายในชีวิต
หลังจากที่เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เซเตียนเริ่มต้นการทำงานคุมทีมกับราซิง เช่นกันในปี 2000 ก่อนจะพเนจรคุมหลายสโมสร จากโปลี เอฮิโด, โลโกรนเยส ก่อนจะได้โอกาสคุมทีมชาติอีเควทอเรียลกินี จากนั้นกลับมาปั้นสโมสรลูโก สโมสรเล็กๆ เป็นเวลา 5 ปี ช่วยพาทีมเลื่อนชั้นมาถึงเซกุนดา บี หรือลีกระดับดิวิชัน 2 ก่อนจะย้ายไปคุมทีมลาส พัลมาส พาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาลแรก และเกือบนำทีมลุ้นไปรายการสโมสรยุโรปในฤดูกาลต่อมา
ผลงานที่โดดเด่นของเซเตียนทำให้เรอัล เบติสตัดสินใจดึงตัวมาคุมทีมในปี 2017 และแค่ฤดูกาลแรก ก็นำสโมสรดังของแคว้นอันดาลูเซียกลับไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปได้สำเร็จ แถมยังสยบ เซบียา คู่ปรับร่วมแคว้นในศึกเอล แกรน ดาร์บีได้ 5-3 ซึ่งเป็นผลงานที่ชนะใจแฟนบอลเบติส แต่ทีมเริ่มทำผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลต่อมาจากที่ลุ้นไปยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สู่การเป็นทีมระดับกลางตาราง ทำให้โค้ชจอมเก๋าตัดสินใจที่จะอำลาทีมหลังจบฤดูกาล
อย่างไรก็ดี จุดเด่นที่สำคัญที่สุดในสไตล์การทำทีมของเซเตียน คือการถอดแบบสไตล์การเล่นฟุตบอลที่สวยงามและลื่นไหลในแบบฉบับบาร์เซโลนาแท้ๆ ที่สืบเนื่องมาจากต้นตำรับตัวจริงอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ อดีตนักเตะและโค้ชเทวดาผู้ล่วงลับแห่งคัมป์นู
เซเตียนเคยให้สัมภาษณ์ถึงตำราฟุตบอลฉบับครัฟฟ์ว่า “ผมยังจำในวันที่ได้พบกับบาร์เซโลนาของครัฟฟ์ได้ ในการเจอกับพวกเขา เราต้องวิ่งไล่ตามบอลทั้งเกม ผมเลยบอกกับตัวเองว่า ‘นี่คือสิ่งที่ผมชอบ ผมอยากจะอยู่ในทีมนี้ และรู้ว่าพวกเขาทำแบบนี้ได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงครองบอลไว้ได้ตลอดโดยที่ปล่อยให้คู่แข่งวิ่งไล่บอลตลอดทั้งเกม’ นับตั้งแต่นั้นผมจึงหาเหตุผลกับสิ่งที่ผมรู้สึกมาตลอดชีวิต และตลอดชีวิตการทำงานของผม
“ผมเริ่มดูฟุตบอลอย่างจริงจังเพื่อวิเคราะห์ เพื่อเข้าใจว่าความรู้สึกของผมคืออะไร และอะไรที่ผมอยากจะนำไปฝึกสอนเมื่อผมได้เป็นโค้ช”
ปรัชญาฟุตบอลฉบับเซเตียนเน้นการต่อบอลจากเท้าสู่เท้า ให้ความสำคัญกับการครองบอล เน้นหนักในเรื่องเกมรุกแบบเดียวกับบาร์เซโลนา และได้รับการยกย่องอย่างมากในวงการฟุตบอลสเปน เพียงแต่สิ่งที่เป็นจุดด่างพร้อยคือการที่เขายังไม่เคยพาทีมคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่รายการเดียว และเป็นความท้าทายแห่งชีวิตของเขาที่จะนำบาร์ซาคว้าแชมป์ให้ได้ด้วยสไตล์ฟุตบอลที่เขาหลงใหล
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: