×

นโรดม จักราวุธ คือใคร ‘ตัว Secret’ ของจีนในกัมพูชาจริงหรือ?

22.12.2025
  • LOADING...
นโรดม จักราวุธ คือใคร ‘ตัว Secret’ ของจีนในกัมพูชาจริงหรือ?

ระยะหลังมานี้ ผู้เกาะติดกระแสการเมืองกัมพูชาเริ่มมีการพูดทำนองว่า “รัฐบาลฮุนมาเนตพยายามจะเอียงไปหาสหรัฐฯ มากขึ้น อาจจะไม่จงรักภักดีกับจีนมากเหมือนในอดีต ทำให้มีการร่ำลือกันว่า จีนอาจจะสนับสนุนขั้วอำนาจอื่นมาปกครองกัมพูชาแทนที่ตระกูลฮุน รวมทั้งปัญหาแก๊งสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทาที่เชื่อมโยงกับตระกูลนี้ ทำให้คนจีนต้องตกเป็นเหยื่อ รัฐบาลจีนจึงไม่พอใจ” จึงมีการเชื่อมโยงพูดถึงชื่อ ‘นโรดม จักราวุธ’ กันมากขึ้น บทความนี้ จะมาวิเคราะห์ว่า นโรดม จักราวุธ คือ ตัว Secret ของจีนในกัมพูชาจริงหรือ?

 

ประเด็นแรก นโรดม จักราวุธ คือใคร? 

 

นโรดม จักราวุธ เป็นเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์กัมพูชาที่ลงมาเล่นการเมืองในฐานะประธานพรรคฟุนซินเปก (FUNCINPEC) ในแง่สถานะในราชสกุลนโรดม เจ้าจักราวุธเป็นหลานของกษัตริย์องค์ปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี และเป็นหลานปู่ของอดีตกษัตริย์นโรดม สีหนุ เนื่องจากเจ้าจักราวุธเป็นโอรสของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ (พระราชโอรสของกษัตริย์นโรดม สีหนุ)

 

พรรคฟุนซินเปกเป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งโดยกษัตริย์นโรดม สีหนุ (ประธานพรรคฟุนซินเปกคนแรก) เจ้านโรดม รณฤทธิ์ ก็เคยเป็นประธานพรรคฟุนซินเปก และเมื่อสิ้นเจ้านโรดม รณฤทธิ์ เจ้าจักราวุธมารับตำแหน่งประธานพรรคฯ คนถัดมา จึงชัดเจนว่า ฝ่ายราชสกุลนโรดมยังคงพยายามรักษาพื้นที่ทางการเมืองในกัมพูชา

 

ในอดีต พรรคฟุนซินเปกเคยมีบทบาทสำคัญในยุคหลังสงครามกลางเมืองกัมพูชาและถือเป็นตัวแทนของราชวงศ์ในระบบการเมืองสมัยใหม่ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน พรรคฟุนซินเปกภายใต้การนำของเจ้าจักราวุธไม่ค่อยมีบทบาททางการเมืองมากนัก เนื่องจากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของตระกูลฮุนมีการคุมอำนาจทางการเมืองในกัมพูชาไว้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คุมทั้งกองทัพ และกลไกราชการทั้งหมด

 

นอกจากนี้ เจ้าจักราวุธตระหนักดีว่า พรรคฟุนซินเปก “เคยเจ็บ” มาแล้วจากที่เคยท้าทายอำนาจกับตระกูลฮุน ท่าทีของเจ้าจักราวุธจึงไม่ใช้วาทกรรมที่รุนแรงต่อต้านรัฐบาลหรือตระกูลฮุน แต่จะเล่นเกมยาว เน้นรักษาความชอบธรรมและบทบาทเชิงสัญลักษณ์ โดยเลี่ยงไม่ท้าทายอำนาจของตระกูลฮุนโดยตรง เพื่อรักษาพื้นที่ทางการเมือง และในสายตาของฮุนเซนมองว่า เจ้าจักราวุธ คือ เชื้อพระวงศ์ที่ “ควบคุมได้” และเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่แข็งขืน ไม่มีฐานทหาร และไม่มีมวลชนในมือที่มากพอที่จะเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของตระกูลฮุน

 

ในแง่นี้ เจ้าจักราวุธจึงมีข้อจำกัดเชิงโครงสร้างอำนาจ และไม่สามารถเปลี่ยนดุลอำนาจในกัมพูชาได้เอง นอกจากนี้ เจ้าจักราวุธมีบุคลิกที่ค่อนข้างสุภาพ ประนีประนอม ไม่แข็งกร้าว เจ้าจักราวุธมีจุดเด่น/จุดด้อยที่แตกต่างกับฮุนมาเนตในหลายด้าน ดังสรุปในตาราง

 

นโรดม จักราวุธ คือใคร ‘ตัว Secret’ ของจีนในกัมพูชาจริงหรือ? 1

 

ประเด็นถัดมา ความสัมพันธ์ของจีนกับราชวงศ์กัมพูชา

 

ในยุคสงครามเย็น กษัตริย์กัมพูชาในราชสกุลนโรดมเคยลี้ภัยไปอยู่จีนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยกษัตริย์นโรดม สีหนุ มาจนถึงยุคของกษัตริย์นโรดม สีหมุนี ก็ยังเสด็จเยือนจีนอยู่เสมอ (มีพระตำหนักส่วนพระองค์ในกรุงปักกิ่ง) ทำให้ราชสกุลนโรดมมีความสนิทสนมกับจีนเป็นอย่างมาก สำหรับจีน ราชวงศ์กัมพูชาคือ “เพื่อนเก่าของปักกิ่ง” และเปรียบเสมือน Soft Power ของกัมพูชาที่จีนคุ้นเคยมานาน

 

ในอดีตที่ผ่านมา แม้ว่าภาพของเจ้าจักราวุธอาจจะดูไม่ค่อยใกล้ชิดกับจีนมากนัก (ไปใช้ชีวิตในฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่) แต่ในทางการเมือง เจ้าจักราวุธในฐานะประธานพรรคฟุนซินเปกได้กลับมาสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน และประกาศว่า “พรรคฟุนซินเปกยึดมั่นในนโยบายมิตรภาพที่ดีต่อจีนที่ริเริ่มโดยกษัตริย์นโรดม สีหนุ” ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับจีน เจ้าจักราวุธจึงเล่นบทบาท ‘ผู้สานต่อ’ ความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีน

 

ประเด็นสุดท้าย เจ้าจักราวุธ มีศักยภาพเป็น ‘ตัว Secret’ ของจีนหรือไม่?

 

มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า จีนอาจจะมีบทบาทซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังฉากในการสนับสนุน ‘ตัว Secret’ ในกัมพูชา เพื่อเป้าหมายบางอย่างในระยะยาว และในเชิงยุทธศาสตร์ จีนมักจะไม่ผูกอนาคตไว้กับคนกลุ่มเดียว แม้ว่าในขณะนี้ ตระกูลฮุนยังคงจงรักภักดีกับจีนอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลฮุนมาเนตมีท่าทีเอียงไปหาสหรัฐฯ มากขึ้น สำหรับจีนจึงไม่จำเป็นต้องหนุนฝ่ายใดเพียงฝ่ายเดียว จีนอาจจะใช้ยุทธศาสตร์ ‘วางหมากหลายตัว’ ในกัมพูชา เพื่อใช้เป็น ‘ช่องทางสำรอง’ นอกเหนือจากตระกูลฮุน

 

นอกจากนี้ มีกระแสความไม่พอใจการที่ตระกูลฮุนกุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและกินรวบในวงการต่างๆ รวมทั้งมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทา ทั้งเรื่องสแกมเมอร์และแก๊งหลอกลวงออนไลน์ คาสิโน ตลอดจนการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ทำให้มีคนจีนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีแก๊งจีนเทาอยู่ในกัมพูชา หลายฝ่ายจึงวิเคราะห์ว่า เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจตระกูลฮุน รัฐบาลจีนมีท่าทีเด็ดขาดในการจัดการกับแก๊งสแกมเมอร์ และเรื่องผิดกฎหมายเหล่านั้น

 

สำหรับศักยภาพของเจ้าจักราวุธ แม้ว่าจะไม่มีอำนาจทหารในมือ และไม่มีกลไกของตัวเองในระดับรัฐ แต่เจ้าจักราวุธมีจุดเด่นในแง่ ‘ความชอบธรรมเชิงสัญลักษณ์’ ในฐานะเชื้อพระวงศ์ และในฐานะประธานพรรคฟุนซินเปก จึงมีหลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่า จีนอาจจะให้การสนับสนุนเจ้าจักราวุธในทางลับ เพื่อใช้เป็น ‘ตัว Secret’ เพื่อเป้าหมายระยะยาว

 

การเลือกสนับสนุนเจ้าจักราวุธจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับระบบการปกครองของกัมพูชาในปัจจุบัน และช่วยลดแรงเสียดทานทางการทูตกับชาติตะวันตกอย่างสหรัฐฯ และยุโรปได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งแม้ว่ากัมพูชาจะอยู่ภายใต้กรอบประชาธิปไตยแบบราชาธิปไตย หากแต่กษัตริย์กัมพูชาองค์ปัจจุบันค่อนข้างอ่อนแอ ไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง ทุกอย่างอยู่ภายใต้อำนาจของพ่อลูกตระกูลฮุน

 

ดังนั้น หากจีนเลือกที่จะสนับสนุนเจ้าจักราวุธ ก็จะไม่เสี่ยงกับแรงกดดันจากตะวันตกเรื่องความเป็นเผด็จการ เนื่องจากพรรคฟุนซินเปกเป็นพรรคเก่าแก่สายราชวงศ์และผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เจ้าจักราวุธไม่ใช่ทหารแบบฮุนมาเนต จึงมีภาพที่ประนีประนอมกว่า ทำให้โลกตะวันตกน่าจะยอมรับมากกว่าเมื่อเทียบกับพรรค CPP ของตระกูลฮุนที่ใช้ความเผด็จการปราบฝ่ายค้าน และคุมกองกำลังทหารทั้งหมดของกัมพูชา

 

ที่สำคัญ เจ้าจักราวุธไม่ใช่เป็นแค่ ‘นักการเมือง’ แต่คือสัญลักษณ์ความต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของจีนกับราชวงศ์กัมพูชา พรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีนให้เกียรติสถาบันกษัตริย์และราชสกุลนโรดมของกัมพูชามาโดยตลอด และเจ้าจักราวุธมีศักยภาพที่จะเป็นเสมือนสะพานเชื่อมราชวงศ์กับการเมืองสมัยใหม่ จึงมีหลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่า เจ้าจักราวุธอาจจะเป็น asset ทางการเมืองที่ใช้เป็นตัวสำรองของจีนในคราวจำเป็น

 

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลในสื่อสาธารณะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่า จีนให้การสนับสนุนเจ้าจักราวุธ เพื่อเป็นขั้วอำนาจใหม่ (แม้ว่าหลิวเจี้ยนเชา รัฐมนตรีว่าการกิจการการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เคยพบปะกับเจ้าจักราวุธ และฉวี่ชิงซาน สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เคยนำคณะผู้แทนพรรคฯ เยือนกัมพูชา และได้เคยพบกับเจ้าจักราวุธ พร้อมกับผู้นำกัมพูชาคนอื่นๆ เช่นกัน)

 

จากแนวทางปฏิบัติของจีนที่มักจะไม่ปิด ‘ทางเลือก’ โดยไม่จำเป็น ในมุมมองส่วนตัว จึงคิดว่า ในขณะนี้ ความเป็นไปได้ที่จีนน่าจะเลือกทำมากกว่า คือ ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายต่อไป โดยเลือกใช้ประโยชน์จากแต่ละฝ่าย ในแต่ละบทบาทที่แตกต่างกัน จีนเปิดประตูพูดคุยกับทุกฝ่ายในลักษณะ ‘ไม่ผูกมัด’

 

ที่สำคัญ จีนไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในแต่ละกลุ่มที่ตนมีอิทธิพล (ทั้งฝ่ายตระกูลฮุนและฝ่ายเจ้าจักราวุธ) ดังนั้น ไม่ว่าใครจะขี้นมากุมอำนาจในกัมพูชา สิ่งที่จีนต้องการเห็นมากกว่า คือ ‘กัมพูชาที่มีเสถียรภาพ’ และมีความสัมพันธ์กับจีนแข็งแกร่ง ’ดุจดั่งเหล็กกล้า’ เช่นนี้ตลอดไป เพื่อหวังจะใช้กัมพูชาเป็น ‘เสียงของจีน’ ในเวทีอาเซียน และในการเดินเกมภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคนี้ต่อไปนั่นเอง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising