×

ใครคือ อเล็กซานเดอร์ หวัง? อัจฉริยะพันล้านที่ Meta ทุ่ม 4.6 แสนล้านบาท จ้างมากู้วิกฤตสงคราม AI ที่กำลังพ่ายแพ้

18.06.2025
  • LOADING...
อเล็กซานเดอร์ หวัง

HIGHLIGHTS

  • ดีลระหว่าง Meta กับ Scale AI สร้างความฮือฮาได้พอสมควรในโลกเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของมูลค่าการลงทุนที่มหาศาล แต่เป็นเพราะพวกเขาได้ตัวอเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอของ Scale AI มาร่วมทัพด้วย
  • Scale AI ทำงานร่วมกับบริษัทที่ลุยธุรกิจด้านนี้ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น OpeanAI, Alphabet, Microsoft หรือแม้แต่ Meta เองก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของพวกเขาเช่นเดียวกัน
  • สิ่งที่คนในวงการชื่นชมตัวหวังอย่างมากนอกจากเรื่องของวิสัยทัศน์คือความเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งทำให้ Scale AI กลายเป็นบริษัทที่เต็มไปด้วยคนเก่งที่ถูกชักชวนให้มาร่วมงานกัน ในบรรยากาศการทำงานที่ดี
  • อเล็กซานเดอร์ หวัง จะเข้ามาเป็นผู้นำของหน่วยงาน Superintelligence ของ Meta ซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยรบพิเศษที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ตั้งขึ้นเพื่อเดินหน้าในงานด้านเอไอ

ในทางการรบแล้วมีคำกล่าวว่า ‘ใครครองน่านฟ้าได้ ผู้นั้นชนะศึก’ แต่สำหรับโลกเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวเร็วเสียยิ่งกว่ารถแข่งเอฟวันแล้ว ต้องบอกว่า ‘ใครครองเอไอได้ ผู้นั้นจะครองโลก’

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะหาทางเอาชนะคู่แข่งให้ได้ในเกมสงครามปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent) และทำให้เทคโนโลยีสมองกลก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 

ChatGPT ของ OpenAI, Gemini ของ Google หรือแม้แต่ Grok ของ X (Twitter เดิม) กลายเป็นเพื่อนผู้รู้ใจของคนทุกเพศทุกวัยที่ไม่ว่าจะอยากหาคำตอบเรื่องอะไร ไปจนถึงการขอความช่วยเหลือในการเรียน การทำงาน เอไอเหล่านี้ทำได้ทุกอย่าง

 

แต่น่าแปลกใจไหม ที่เอไอของ Meta ยักษ์ใหญ่อีกตนของโลกเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่งพยายามจะเป็นผู้นำในการพาทุกคนไปสู่โลกจำลองแห่งอนาคตด้วย Metaverse กลับไม่เป็นที่พูดถึงสักเท่าไร ร้ายกว่านั้นคือเอไอที่ใช้งานบนบริการหลักอย่าง Facebook กลับสร้างปัญหาให้แก่ผู้ใช้งานจำนวนมาก

 

ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ Meta ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการลงทุน 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.64 แสนล้านบาท) ในบริษัท Scale AI

 

โดยการลงทุนครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อแลกกับหุ้นจำนวน 49 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

 

แต่เพื่อการคว้าตัวอเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexander Wang) ซีอีโอของ Scale AI ที่จะมาเป็น ‘ขุนศึก’ คนใหม่ของ Meta ในการรบสมรภูมิปัญญาประดิษฐ์

คำถามตัวโตๆ คือ Scale AI และขุนศึกคนใหม่เก่งและสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ?

 

ดีลสะท้านวงการเอไอ

 

ดีลระหว่าง Meta กับ Scale AI สร้างความฮือฮาได้พอสมควรในโลกเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของมูลค่าการลงทุนที่มหาศาล

 

แต่เป็นเพราะพวกเขาได้ตัวอเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอของ Scale AI มาร่วมทัพด้วยข้อตกลงมูลค่าถึง 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์

 

โฆษกของ Meta ได้ยืนยันข้อตกลงความร่วมมือกันระหว่าง 2 บริษัทว่าเจ้าของ Facebook และ Instagram ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในฐานะ ‘พันธมิตรด้านกลยุทธ์’ ผ่านการลงทุนกับ Scale AI

 

“ส่วนหนึ่งของข้อตกลงครั้งนี้ เราจะทำงานร่วมกันในการผลิตข้อมูลสำหรับโมเดล AI และอเล็กซานเดอร์ หวัง จะเข้าร่วมกับ Meta ในทีม Superintelligence” พร้อมยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมถึงการทำงานร่วมกันและการได้ขุนศึกคนใหม่อย่างหวังมาร่วมทัพในเร็วๆ นี้

 

อย่างไรก็ดีสำหรับคนในวงการดีลครั้งนี้ถือว่าเป็นดีลใหญ่ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

 

เพราะทั้ง Scale AI และหวัง ถือว่า ‘ไม่ธรรมดา’

 

 

Scale AI สำคัญอย่างไร

 

สำหรับ Scale AI นั้น แม้จะไม่ได้เป็นผู้ให้บริการในแบบเดียวกับที่ OpenAI หรือ Alphabet (Google) เป็น แต่ในวงการเอไอแล้วพวกเขาถือว่าเป็นบริษัทที่มีความสำคัญ

 

เพราะ Scale AI ทำงานร่วมกับบริษัทที่ลุยธุรกิจด้านนี้ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น OpeanAI, Alphabet, Microsoft หรือแม้แต่ Meta เองก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของพวกเขาเช่นเดียวกัน

 

สิ่งที่บริษัทแห่งนี้ทำคือการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการสอนและพัฒนา AI ผ่านการเตรียมข้อมูลที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีผ่านทั้งระบบอัตโนมัติและผ่านผู้คัดกรองข้อมูลที่เป็นมนุษย์จริงๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อการ ‘เทรน’ ปัญญาประดิษฐ์ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

 

ไม่ต่างอะไรจากเชฟที่ตระเตรียมอาหารดีๆ ไว้ให้ทุกมื้อ และคุณครูที่สอนแต่สิ่งดีๆ ที่โรงเรียนในทุกวัน เอไอที่ผ่านการเทรนโดยข้อมูลของ Scale AI จะเติบโตเป็น AI ที่ฉลาด มีคุณภาพ และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือ

 

Meta มองเห็นศักยภาพของบริษัทแห่งนี้และสิ่งที่พวกเขาทำว่าน่าจะสามารถแก้เกมด้านการพัฒนาเอไอของตัวเองที่ยังไม่ถือว่าโดดเด่นมากพอในตลาดเวลานี้ได้ จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะใหม่นิดหน่อย

 

จากลูกค้ามาเป็นผู้ถือหุ้น และเป็นหุ้นใหญ่ด้วย

 

แต่นั่นไม่ได้เป็นเป้าหมายที่แท้จริง เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของ Meta และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คือการคว้าตัวซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI อย่างอเล็กซานเดอร์ หวัง มาให้ได้

 

ภาพ : Tada Images / Shutterstock

ใครคืออเล็กซานเดอร์ หวัง?

 

ในแวดวงสายเทคโนโลยีและซิลิคอนแวลลีย์ ชื่อของ อเล็กซานเดอร์ หวัง เป็นชื่อที่ผู้คนรู้จักกันเป็นอย่างดี

 

เพราะนี่คือซีอีโอผู้ที่ทั้งสร้างสตาร์ทอัพสู่การเป็น ‘ยูนิคอร์น’ ได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 22 ปี และเป็น ‘มหาเศรษฐีพันล้าน’ (Billionare) ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกได้ตั้งแต่อายุแค่ 25 ปี

 

ปัจจุบันในวัย 28 ปี ก่อนหน้าที่จะถูก Meta ซื้อตัวเขามีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.16 แสนล้านบาทแล้วตามการเก็บรวบรวมข้อมูลโดย Forbes

 

หวัง เริ่มต้นชีวิตการทำงานตั้งแต่อายุแค่ 17 ปีในฐานะวิศวกรของ Quora ที่ทำให้เขาได้รู้จักกับระบบปัญญาประดิษฐ์และ Machine learning ก่อนจะตัดสินใจตั้งบริษัทของตัวเองอย่าง Scale AI ในปี 2016 ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น 

 

เขามองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้มหาศาลจากการเตรียมข้อมูลและการสร้างแบบจำลองรวมถึงแอปพลิเคชันที่จะใช้สำหรับการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเขียนโค้ด ในช่วงเวลาที่น้อยคนจะรู้จักและจินตนาการถึงคำว่า AI ออกด้วยซ้ำไป

 

จากจุดเริ่มด้วยการชวนเพื่อนสนิทอย่าง ลูซี กัว (Lucy Gua) และบอกกับที่บ้านว่าจะทำโปรเจกต์พิเศษในช่วงปิดเทอม โปรเจกต์พิเศษนี้กลับได้รับเงินทุนก้อนแรกจาก Y Combinator ก่อนจะกลายเป็นสตาร์ทอัพที่ไม่มีใครหยุดอยู่

 

หวัง ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของ Scale AI แต่เพียงผู้เดียวเพราะมีผู้ลงทุนอีกมากมายที่สนใจจะลงขันด้วยเพราะเชื่อในตัวเขา โดยถือหุ้น 15 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท และอยู่บทบาทสำคัญอย่างการเป็นซีอีโอ

 

สิ่งที่คนในวงการชื่นชมตัวหวังอย่างมากนอกจากเรื่องของวิสัยทัศน์คือความเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งทำให้ Scale AI กลายเป็นบริษัทที่เต็มไปด้วยคนเก่งที่ถูกชักชวนให้มาร่วมงานกัน ในบรรยากาศการทำงานที่ดี

 

สิ่งนี้คือสิ่งที่ Meta คาดหวังจากตัวเขา ที่จะทำในสิ่งที่แม้แต่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ไม่สามารถทำได้

 

 

ขุนศึกคู่บัลลังก์

 

อเล็กซานเดอร์ หวัง จะเข้ามาเป็นผู้นำของหน่วยงาน Superintelligence ของ Meta ซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยรบพิเศษที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ตั้งขึ้นเพื่อเดินหน้าในงานด้านเอไอ แต่ปัญหาคือที่ผ่านมาความคืบหน้าและผลงานมีน้อยจนเกินไป

 

‘Llama 4’ เอไอของพวกเขาตามหลังผู้นำอย่าง ChatGPT และ Gemini ไกลลิบในทางความรู้สึกและในทางปฏิบัติ

 

หวัง คือความหวังของ Meta ที่จะพลิกกระดานในเรื่องนี้ โดยความรับผิดชอบหลักของเขาคืองานด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence หรือ AGI) ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของซักเคอร์เบิร์ก

 

เพราะปกติแล้วผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook จะใช้วิธีการผลักดัน ‘คนใน’ ขึ้นมารับตำแหน่งในระดับสูงก่อน แต่ครั้งนี้ซักเคอร์เบิร์กมองแล้วว่าบางทีคนนอกแต่มีความรู้และเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีจากหวัง อาจจะช่วยพลิกสถานการณ์ให้กับ Meta ที่เป็นรองคู่แข่งมาโดยตลอดได้ในสมรภูมินี้

 

สำหรับหวัง โอกาสครั้งนี้ก็ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตของเขาที่มีราคาค่าตอบแทนสูงอย่างมากเช่นกัน 

 

เพราะแม้ว่า Meta จะซื้อตัวเขามาด้วยราคาอย่างงาม แต่หวังก็ต้องแลกกับการลาจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งมาด้วยเช่นกัน

 

“อย่างที่พวกคุณคงจะได้เห็นข่าวแล้ว โอกาสอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูง” หวัง เขียนในจดหมายน้อยที่ส่งถึงพนักงานของ Scale AI ที่มีการเผยแพร่ผ่านทาง X ด้วย “ราคาที่ต้องจ่ายคือการที่ผมต้องออกจากที่นี่โดยทันที แต่ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติที่สุดในชีวิตแล้วที่ได้รับใช้พวกคุณในฐานะซีอีโอ”

 

ทั้งนี้คาดว่าจะมีพนักงานของ Scale AI บางส่วนตามหวังมาทำงานที่ Meta ด้วย 

 

แต่ในเวลาเดียวกัน Scale AI ยืนยันว่าการทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งรวมถึงคู่แข่งของ Meta อย่าง OpenAI และ Alpahbet ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพราะ Metaจะไม่สามารถเข้ามายุ่มย่ามในส่วนของธุรกิจหรือล้วงข้อมูลบริการต่างๆ ได้ 

 

อีกทั้งยังได้แต่งตั้ง เจสัน ดรอจ (Jason Droege) หัวหน้าแผนกกลยุทธ์ซึ่งเคยเป็นรองประธานของ Uber ขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่เรียบร้อยแล้ว

 

อย่างไรก็ดีปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินหมากตานี้ของ Meta ถือว่าสะเทือนวงการพอสมควร เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวอาจจะได้นกเกิน 2 ตัว เพราะสะเทือนทั้งป่า

 

แต่พวกเขาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหวัง จะสามารถพลิกเกมในกระดานนี้ได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

 

ที่บอกได้คือหมากตานี้มีความหมายแน่นอน!

 

 


ภาพปก: Gonzalo Fuentes / File Photo / Reuters

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising