องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมเปลี่ยนชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของโรคฝีดาษลิง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการตีตราและการเหยียดเชื้อชาติ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์กว่า 30 รายจากหลายประเทศทั่วโลก ได้ออกจดหมายเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนชื่อโรคฝีดาษลิงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการตั้งชื่อโรคดังกล่าวไม่สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของ WHO ที่ต้องเลี่ยงการใช้ชื่อภูมิภาคหรือชื่อของสัตว์มาเป็นชื่อโรค เพื่อไม่ให้เกิดการเหยียดชาติพันธุ์หรือมีการตีตราสัตว์บางชนิดว่าเป็นต้นเหตุของเชื้อดังกล่าว โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าสัตว์ชนิดใดที่เป็นแหล่งรังโรค แต่คาดว่าอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
“ในบริบทของการระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก การอ้างอิงและการตั้งชื่อไวรัสชนิดนี้ว่ามีแหล่งกำเนิดจากแอฟริกานั้นไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นการเลือกปฏิบัติและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย” ข้อความในจดหมายระบุ
ทั้งนี้ WHO อยู่ระหว่างการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสกลุ่ม Orthopoxvirus เพื่อพิจารณาชื่อที่เหมาะสมต่อไป โดยการตั้งชื่อโรคนั้นจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดผลกระทบในเชิงลบให้ได้มากที่สุด พร้อมหลีกเลี่ยงการพาดพิงกลุ่มวัฒนธรรม สังคม ประเทศ ภูมิภาค วิชาชีพ หรือกลุ่มชาติพันธุ์ใดๆ
ก่อนหน้านี้ WHO เคยเปลี่ยนชื่อเรียกไวรัสโควิดเป็น SARS-CoV-2 หลังจากที่สื่อและผู้คนทั่วโลกต่างเรียกไวรัสดังกล่าวว่าเป็น ‘ไวรัสจีน’ หรือ ‘ไวรัสอู่ฮั่น’ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายชื่อเสียงของประเทศจีนและชาวอู่ฮั่น รวมถึงลดปัญหาการเหยียดเชื้อชาติจากกรณีดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา WHO เปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงราว 1,300 ราย ใน 28 ประเทศ ซึ่งไม่ได้มีโรคฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น และขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตนอกแอฟริกา โดยพบการระบาดมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ตามมาด้วยสเปน เยอรมนี และแคนาดา ตามลำดับ
ภาพ: Pavlo Gonchar / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
