ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 พฤษภาคม) ว่ากำลังเตรียมสอบความเห็นของบรรดาพนักงานบริษัททั่วสหรัฐฯ เกี่ยวกับกรณีที่นายจ้างมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อตรวจสอบพวกเขาอย่างไร โดยมีเป้าหมายหลักในการนำข้อมูลในส่วนนี้มาประกอบการจัดสรรการลงทุนของรัฐบาลกลางในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งคาดว่าจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของบรรดาแรงงาน
รายงานระบุว่า ทางทำเนียบขาวจะจัด Session รับฟังเหล่าลูกจ้างเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์ของพวกเขากับการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติของนายจ้างในการเฝ้าระวัง ติดตาม และประเมินผล ซึ่งลูกจ้างที่ว่านี้ครอบคลุมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านงานฟรีแลนซ์ (Gig Work Experts) นักวิจัย และผู้กำหนดนโยบาย
ทั้งนี้ การศึกษามีขึ้นหลังจากที่บรรดาแรงงานหลายล้านคนได้ลองใช้แอปและเครื่องมือ AI แล้ว ซึ่งฝ่ายผู้สนับสนุนกล่าวว่า AI สามารถทำการวินิจฉัยทางการแพทย์ เขียนบทภาพยนตร์ สร้างบทสรุปทางกฎหมาย และแก้ไขข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ได้ดีระดับหนึ่ง ทำให้ฝ่ายที่ยังคงกังขากับ AI เกิดความกังวลมากขึ้นว่าเทคโนโลยีดังกล่าวอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว การตัดสินใจจ้างงานที่ไม่สอดคล้องกับทักษะที่แท้จริง การเพิ่มขีดความสามารถในการฉ้อโกงหลอกลวง และการรณรงค์ให้ข้อมูลที่ผิดจนก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง
โดยส่วนหนึ่งของการประเมินเทคโนโลยี รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะประกาศขั้นตอนใหม่ รวมถึงแผนงานที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับการลงทุนของรัฐบาลกลางในการวิจัยด้านเทคโนโลยี AI การร้องขอให้สาธารณชนป้อนข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI และรายงานใหม่จากกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ที่มีต่อการเรียนการสอนและการวิจัย
ความเคลื่อนไหวของทำเนียบข่าวในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับ AI รวมถึง Microsoft และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการประชุมมุ่งเน้นไปที่ความจำเป็นที่บริษัทต่างๆ จะต้องมีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับระบบ AI ของตน และความสำคัญของการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
อ้างอิง:
