สำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณประจำทำเนียบขาวเผยว่า สหรัฐฯ อาจจะมีความจำเป็นต้องชะลอมาตรการแบนหัวเว่ยออกไปอีก 2 ปี เนื่องจากเกรงว่า ซัพพลายเออร์และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยในประเทศอาจได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามทำธุรกิจกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากจีนรายนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ได้ทำสัญญาทางธุรกิจร่วมกับหัวเว่ยไว้ก่อนหน้านี้
เบื้องต้น ทำเนียบขาวจะยื่นเรื่องสอบถามกับทางรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนผันโทษดังกล่าวออกไปเป็นระยะเวลา 2 ปี จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ทันที 90 วัน หลังประกาศมาตรการดังกล่าวออกมาเมื่อประมาณวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เจค็อบ วูด โฆษกประจำสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณ เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า “เราทำเพื่อให้แน่ใจว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจกับรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับเงินสนับสนุนหรือเงินกู้ยืมจากรัฐบาลกลาง จะมีเวลามากพอในการหาทางออกจากกรณีการทำธุรกิจกับหัวเว่ยหรือบริษัทเทคโนโลยีจากจีนรายอื่นๆ ที่อยู่ในลิสต์รัฐบัญญัติป้องกันประเทศ”
ด้าน รัสเซลล์ โวท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณ เชื่อว่า การยืดระยะเวลาบังคับใช้มาตรการลงดาบหัวเว่ยออกไป จะช่วยลดผลกระทบทางลบให้กับบริษัทและองค์กรในสหรัฐฯ ได้อย่างมหาศาล และมองว่า หากสามารถเลื่อนมาตรการดังกล่าวออกไปเป็นระยะเวลา 4 ปีได้ ก็จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเวลามากเพียงพอในการหาทางหนีทีไล่ และเตรียมแผนการรับมือกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ทันท่วงที
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
