ช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง เพราะหลายประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่าง สหรัฐอเมริกา, อินเดีย, บราซิล ฯลฯ จนเกิดความกังวลว่าการระบาดระลอกสองจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรือไม่
ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์ IHS Markit เริ่มเห็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในรูปแบบ ‘W’ โดยรายงาน World Flash Nariman Behravesh หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IHS Markit และ ซาร่า จอห์นสัน ผู้อำนวยการของ Global Economics ปรับคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 2563 ที่ -5.5% เพราะยังไม่เห็นปัจจัยหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่เด่นชัดจนสามารถฉุดให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ แต่หลังภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ ก็คาดว่าปี 2564 จะกลับมาเติบโตที่ 4.4%
แม้ว่าวิกฤตนี้รัฐบาลและธนาคารกลางหลายประเทศจะออกมาตรการทางการเงินและการคลังมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงนี้ แต่ยังมีสิ่งที่ยังต้องระมัดระวังคือ การบริโภคและภาคธุรกิจ เพราะยังต้องเจอความเสี่ยงและความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ IHS Markit คาดว่า ภูมิภาคยุโรปจะเจอผลกระทบหนักที่สุด โดยประมาณการว่า GDP ปี 2563 จะติดลบ 8.6%
ดังนั้นจะเห็นสหภาพยุโรป (EU) เร่งหามาตรการดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงที่ผ่านมามีการพูดคุยถึง European Recovery Fund มูลค่า 750,000 ล้านยูโร ที่จะให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ส่วนสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองคือ การประชุมกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (European Summit) ครั้งนี้
ล่าสุดในการประชุมวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2563 กลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ในรายละเอียดของงบประมาณระยะยาว ประจำปี 2564-2570 ของสหภาพยุโรป ทำให้หัวข้อในการประชุมต่างๆ คาดว่ายังไม่มีข้อสรุปในเร็ววัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ การระบาดระลอกสอง ที่จะฉุดให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และหากการระบาดระลอกสองรุนแรงขึ้น จะลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในรูปแบบตัว V (ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว) และจะเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในรูปแบบ W ซึ่งอาจเกิดภาวะถดถอยสองครั้ง
ดังนั้นในระยะข้างหน้า ยังต้องจับตามองสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทั้งในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่และประเทศที่มีเศรษฐกิจหลักของโลก
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
