การลงนามรับรองกฎหมายมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือ American Rescue Plan วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 มีนาคม) ถือเป็นความสำเร็จใหญ่ครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีของโจ ไบเดน
ภายใต้แผนกู้ชีพอเมริกันนี้ จะมุ่งเน้นการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนอเมริกันหลายสิบล้านคน ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปี ซึ่งเป็นอีกความหวังในการฟื้นชีวิต และกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
รายละเอียดที่สำคัญของกฎหมายฉบับประวัติศาสตร์นี้มีอะไรบ้าง
- เช็ค 1,400 ดอลลาร์ สำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่
มาตรการแรกที่ถูกพูดถึงในการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คือการจ่ายเช็คเงินสดช่วยเหลือโดยตรงจำนวน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 43,000 บาท ให้แก่ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
การจ่ายเงินช่วยเหลือครั้งนี้ ถือเป็นมาตรการเยียวยารอบที่ 2 ทำให้ยอดเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลสหรัฐฯ แจกให้ประชาชน รวมอยู่ที่คนละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นจำนวนที่วุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครต ให้คำมั่นกับชาวอเมริกันไว้เมื่อเดือนธันวาคม
ขณะที่เงื่อนไขการรับสิทธิ์ยังคงเป็นเช่นเดียวกับรอบแรก โดยหัวหน้าครัวเรือน (Head of Household) ที่มีรายได้น้อยกว่า 112,500 ดอลลาร์สหรัฐ และคู่สมรสที่มีรายได้รวมน้อยกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับเงินช่วยเหลือเต็มจำนวน
ซึ่งทำเนียบขาวชี้ว่าบุคคลที่มีบัญชีเงินฝากลงทะเบียนกับกระทรวงการคลังและสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) จะได้รับเช็คเงินสดอย่างเร็วในช่วงสุดสัปดาห์นี้
- เพิ่มเงินชดเชยว่างงานคนละ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ จนถึงวันที่ 6 กันยายน
แพ็กเกจเยียวยารอบนี้ขยายระยะเวลาโครงการจ่ายเงินพิเศษช่วยเหลือผู้ว่างงาน คนละ 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ ออกไปจนถึงวันที่ 6 กันยายน ซึ่งผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินพิเศษนี้ จะต้องเป็นผู้ว่างงานที่ได้รับเงินชดเชยจากโครงการช่วยเหลือการว่างงานในภาวะโรคระบาด ตลอดจนผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้รับเหมา และพนักงานพาร์ตไทม์ ขณะที่กฎหมายยังกำหนดให้เงินชดเชยการว่างงาน 10,200 ดอลลาร์แรก ไม่ต้องเสียภาษี
- เงินลดหย่อนภาษีบุตรตั้งแต่ 3,000 ถึง 3,600 ดอลลาร์
ขยายการลดหย่อนภาษีบุตร สำหรับพ่อแม่ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จะได้รับเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 3,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุตร 1 คน ส่วนครอบครัวที่มีบุตรอายุ 17 ปี หรือต่ำกว่า จะได้รับเงินลดหย่อนภาษี 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุตร 1 คน
- คุ้มครองสวัสดิการประกันสุขภาพผู้ว่างงาน 100%
สำหรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง รัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนค่าใช้จ่าย 100% เต็ม แก่สวัสดิการประกันสุขภาพ COBRA (Consolidated Omnibus Budget Reconciliation Act) หรือประกันสุขภาพสำหรับผู้ถูกเลิกจ้าง ซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางที่มีมาตั้งแต่ปี 1986
จากข้อมูล พบว่าประกันสุขภาพฉบับนี้ มีค่าใช้จ่ายต่อปีค่อนข้างสูง เฉลี่ยสำหรับ 1 คน อยู่ที่ 7,470 ดอลลาร์สหรัฐ และ 21,342 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ครอบครัว
- เงินอุดหนุน 34,000 ล้านดอลลาร์สำหรับโอบามาแคร์
แพ็กเกจเยียวยาฉบับนี้จะให้เงินอุดหนุนวงเงิน 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับชาวอเมริกันที่ซื้อแผนประกันสุขภาพที่มาจากกฎหมายประกันสุขภาพ Affordable Care Act (ACA) หรือที่รู้จักในชื่อโอบามาแคร์ ซึ่งโครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปจนถึงสิ้นปี 2022
- 350,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับรัฐบาลประจำรัฐและท้องถิ่นต่างๆ
พรรคเดโมแครตยอมรับข้อเสนอให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่รัฐต่างๆ ในระหว่างการเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองฉบับนี้ โดยไบเดนอนุมัติการสนับสนุนเงินช่วยเหลือโควิด-19 วงเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่รัฐบาลระดับรัฐ ท้องถิ่นและเขตแดนต่างๆ ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการแจกจ่ายวัคซีน คงการจ้างงาน และคงการให้บริการของภาครัฐ
- 170,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับโรงเรียนระดับ K12 และมหาวิทยาลัย
นอกเหนือจากที่สภาคองเกรสอนุมัติเงิน 82,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในแพ็กเกจเยียวยาฉบับนี้ จะสนับสนุนงบประมาณ 170,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือมหาวิทยาลัยและโรงเรียนระดับ K-12 หรือโรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 ให้เรียนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้โดยเร็ว
- 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
งบประมาณเพิ่มเติม 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยในการขยายศูนย์ฉีดวัคซีนในชุมชนต่างๆ และส่งหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ ไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณแก่บุคลากรทางการแพทย์อีกกว่า 100,000 คน ที่ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชน
- 50,000 ล้านดอลลาร์สำหรับตรวจโควิด-19
แพ็กเกจเยียวยาฉบับนี้ครอบคลุมงบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเพิ่มการตรวจโควิด-19 แก่ชาวอเมริกันทั่วประเทศ ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณสำหรับการตรวจเชื้อแบบรวดเร็ว และขยายขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อ รวมทั้งสนับสนุนการตรวจเชื้อของโรงเรียน และทางการท้องถิ่นต่างๆ ด้วย
ภาพ: Doug Mills-Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
