เรารู้อะไรแล้วบ้างจากเหตุการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์โจมตีกันอย่างดุเดือด

ตะวันออกกลางร้อนระอุ หลังเกิดการโจมตีใส่กันอย่างดุเดือดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน จนเกิดความตึงเครียดในภูมิภาค

THE STANDARD ประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

📍 เกิดอะไรขึ้น

– อิสราเอลส่งเครื่องบินรบราว 100 ลำโจมตีเป้าหมายฐานยิงจรวดทางใต้ของเลบานอนในช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ (25 สิงหาคม) โดยอ้างว่าเป็นการชิงโจมตีก่อนเพื่อป้องกัน หลังได้รับข่าวกรองมาว่าฮิซบอลเลาะห์เตรียมใช้ฐานยิงเหล่านั้นในการโจมตีอิสราเอล

– กองทัพอิสราเอลระบุว่า มีการตรวจพบว่าฮิซบอลเลาะห์จะยิงจรวดหลายร้อยลูกเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลางของอิสราเอลในเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ดังนั้นจึงชิงโจมตีก่อนครึ่งชั่วโมง

– การโจมตีระลอกนี้อิสราเอลบอกว่า สามารถทำลายเครื่องยิงจรวดของฮิซบอลเลาะห์ได้หลายพันระบบ

– ส่วนฮิซบอลเลาะห์ได้โจมตีเข้าไปในพื้นที่ภาคเหนือของอิสราเอลด้วยจรวดและโดรน เพื่อแก้แค้นให้กับ ฟูอัด ชูคร์ ผู้บัญชาการระดับสูง ที่ถูกสังหารในกรุงเบรุตของเลบานอนเมื่อเดือนกรกฎาคม

– ฮิซบอลเลาะห์อ้างว่าสามารถโจมตีฐานทัพอิสราเอล 11 แห่ง ซึ่งรวมถึงฐานทัพเมรอน ในที่ราบสูงโกลัน ที่อิสราเอลยึดครองอยู่

– ฮิซบอลเลาะห์ประกาศด้วยว่า การโจมตีเฟสแรกนี้สิ้นสุดลงแล้วด้วยการบินโดรนและยิงจรวดทั้งสิ้น 320 ลูก (อิสราเอลระบุตัวเลขว่ามีจำนวน 200 ลูก) พร้อมแสดงความพอใจว่าประสบความสำเร็จ โดยอ้างว่าเฟสนี้ต้องการมุ่งเป้าไปที่สถานที่ทางทหารของอิสราเอล ที่สามารถใช้ในการสกัดกั้นการโจมตีระลอก 2 ด้วยโดรนของฮิซบอลเลาะห์ที่กำหนดเป้าหมายลึกเข้าไป แต่ฮิซบอลเลาะห์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป้าหมายใหม่คืออะไร

📍 ความเสียหาย

– ยังไม่มีรายงานจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากฝั่งอิสราเอล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คนในพื้นที่ทางใต้ของเลบานอน ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของอิสราเอล

– คาดว่าจะมีสถานที่ทางทหารของทั้งสองฝ่ายเสียหายจากการถูกโจมตี แต่ฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า เครื่องยิงจรวดของตนไม่ได้รับความเสียหายตามที่อิสราเอลกล่าวอ้าง

📍 สถานการณ์ล่าสุด

– หลังเหตุการณ์โจมตี อิสราเอลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 48 ชั่วโมง และได้ออกข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เวลา 06.30 น. – 26 สิงหาคม 2024 เวลา 18.00 น. โดยในพื้นที่ทางเหนือที่ติดหรือใกล้ชายแดนเลบานอน ห้ามชุมนุมหรือรวมตัวมากกว่า 30 คน (พื้นที่ภายนอกอาคาร) หรือมากกว่า 300 คน (พื้นที่ในอาคาร) และห้ามทำงานในสถานที่ที่ไม่มีห้องนิรภัยที่อยู่ในระยะใกล้พอที่จะสามารถไปถึงได้ทันเวลา ส่วนในพื้นที่ติดฉนวนกาซา ห้ามชุมนุมหรือรวมตัวมากกว่า 1,000 คน

– ในช่วงเช้า ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียนปิดบริการชั่วคราวจนถึงเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเปิดทำการตามปกติแล้ว

– สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ออกประกาศเตือนคนไทยตามข้อปฏิบัติตัวของทางการอิสราเอลข้างต้นแล้ว รวมทั้งขอให้ติดตามและปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามพัฒนาการของสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

– สายการบิน Air France ระงับเที่ยวบินทั้งหมดสู่กรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลและกรุงเบรุตของเลบานอนเป็นการชั่วคราวจนถึงวันจันทร์เป็นอย่างน้อย และอาจจะขยายเวลางดให้บริการ โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป

📍 จะเกิดอะไรขึ้นต่อ

– เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีความมั่นคงว่า อิสราเอลจะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันตัวเอง ขณะที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศจะเปิดทางให้กองทัพสามารถออกข้อปฏิบัติเพิ่มเติมสำหรับพลเรือนได้

– การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คณะผู้แทนของอิสราเอลและฮามาสกำลังเจรจาที่กรุงไคโร เพื่อหาทางหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ แต่คาดว่าการเจรจาจะยังดำเนินต่อไปโดยไม่ได้รับผลกระทบ

– สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังติดตามและประเมินสถานการณ์ร่วมกับทีมงานความมั่นคงแห่งชาติ

– ซามี เนเดอร์ นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญในสถานการณ์ ให้ความเห็นกับ Al Jazeera ว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นสัญญาณว่าความตึงเครียดได้ยกระดับเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณาจากขอบเขตของปฏิบัติการโจมตีที่เกิดขึ้น

– อย่างไรก็ตาม Al Jazeera ตั้งข้อสังเกตว่า ภาษาที่อิสราเอลใช้ เช่น เน้นไปที่ ‘การป้องกันตนเอง’ และ ‘การปกป้องอิสราเอลจากการถูกโจมตี’ บ่งชี้ว่าอิสราเอลอาจไม่ต้องการยกระดับความตึงเครียดไปกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

– ส่วนฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า การโจมตีเฟสแรกสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งก็ต้องจับตาดูต่อว่าจะพอแค่นี้หรือรอโจมตีระลอก 2 ด้วยโดรนตามที่ประกาศไว้

ภาพ: Aziz Taher / Reuters

อ้างอิง: