What to Do with the Dead Kaiju? ซากนรก ไคจู คือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ซาโตชิ มิกิ จาก Louder!: Can’t Hear What You’re Singin’, Wimp (2018) ที่มาพร้อมกับไอเดียสุดเจ๋งด้วยการตั้งคำถามว่า ‘มนุษย์จะมีวิธีการกำจัดซากไคจูอย่างไร’ มาขยายความเป็นเรื่องราวสุดป่วน โดยได้สองนักแสดงมากเสน่ห์อย่าง ยามาดะ เรียวสุเกะ จาก Fullmetal Alchemist (2017) และ ทสึจิยะ ทาโอะ จากซีรีส์ Alice in Borderland (2020) มารับบทนำ
ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวหลังจากที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับไคจูปริศนาที่บุกเข้าจู่โจมเมืองอย่างหนัก รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเริ่มก่อตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาเพื่อต่อกรกับไคจูโดยเฉพาะ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นจนทำให้ไคจูตายลงในที่สุด
เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องต่อสู้อีกต่อไป หน่วยพิเศษจึงต้องรับหน้าที่หาวิธีกำจัดฉากไคจูที่นอนอืดอยู่กลางเมือง แต่ดูเหมือนว่าความวุ่นวายจะยังไม่จบ เพราะซากไคจูยักษ์ดันปล่อยแก๊สพิษออกมาจากตัว ซึ่งอาจเกิดอันตรายกับผู้คนโดยรอบได้ ภารกิจกำจัดซากไคจูที่มีชีวิตของมนุษยชาติเป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้น
หลายครั้งที่เราชมภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดหรือการ์ตูนฮีโร่ญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง เราเองก็เคยตั้งคำถามเหมือนกันว่า หลังจากที่การต่อสู้สิ้นสุดลง ฝ่ายมนุษย์จะจัดการกับบ้านเมืองที่โดนถล่มเละเทะเหล่านั้นอย่างไร แล้วหุ่นยนต์ที่ถูกทำลายหรือแม้แต่ซากของสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ฝ่ายมนุษย์จะจัดการกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไรต่อ
ซึ่งดูเหมือนว่าผู้กำกับ ซาโตชิ มิกิ น่าจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผู้ชมทุกคนต้องเคยตั้งคำถามเหล่านี้ เขาจึงเลือกที่จะหยิบคำถามดังกล่าวมาต่อยอดเป็นเรื่องราวของ What to Do with the Dead Kaiju? เพื่อตอบคำถามที่ผู้ชมต่างสงสัย ด้วยไอเดียสุดเจ๋งนี้เองจึงทำให้ตัวภาพยนตร์สามารถสร้างแรงดึงดูดให้เราได้ตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉาย
กระทั่งเราได้มีโอกาสชม What to Do with the Dead Kaiju? จนจบ สิ่งที่เรารู้สึกประหลาดใจมากๆ คือกลวิธีนำเสนอที่ยียวนกวนประสาท และการล้อเลียนภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดที่แสดงให้เราเห็นแบบโต้งๆ โดยไม่ต้องแอบใส่เป็นอิสเตอร์เอ็กซ์ให้ผู้ชมตีความ ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบและติดตามชมภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดมาอย่างใกล้ชิด ก็น่าจะพอคาดเดาได้ว่าสิ่งที่ภาพยนตร์กำลังกล่าวถึงมาจากเรื่องอะไรบ้าง
ตั้งแต่การออกแบบเครื่องแต่งกาย พาหนะ และการใช้เพลงประกอบของหน่วยพิเศษที่ชวนให้เราคิดถึงหน่วยพิทักษ์โลกในซีรีส์ Ultraman หรือจะเป็นการออกแบบรูปร่างหน้าตาของไคจูยักษ์ที่แทบจะเหมือนกับชาราแห่งสัตว์ประหลาดอย่างก็อดซิลล่า
ไม่เพียงเท่านั้น ภาพยนตร์ยังหยิบประเด็นหลักของเรื่องอย่างภารกิจกำจัดซากไคจู มาใช้เสียดสีเหล่านักการเมืองภายในเรื่องอย่างแสบสัน ทั้งการหาผลประโยชน์จากซากไคจู การพยายามหลีกเลี่ยงภาระหน้าที่เพื่อไม่ให้ตนเองต้องลำบาก และตัวผู้นำที่ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรจนต้องพึ่งพาแต่คนอื่น ซึ่งตัวผู้กำกับค่อนข้างจะนำเสนอเนื้อหาเหล่านี้ออกมาได้อย่างสนุกสนาน และสร้างเสียงหัวเราะให้กับเราได้ตลอดทั้งเรื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ผู้กำกับเลือกที่จะนำเสนอด้วยวิธีการเช่นนี้ เราจึงคิดว่า What to Do with the Dead Kaiju? ค่อนข้างเป็นภาพยนตร์ที่เฉพาะกลุ่มพอสมควร เนื่องจากภาพยนตร์จะเน้นหนักไปที่การเล่าเรื่องเป็นหลัก มีไดอะล็อกค่อนข้างเยอะและพูดกันเร็วมาก ไม่ได้มีฉากแอ็กชันใหญ่ๆ ให้เราได้สนุกตื่นเต้นเท่าไร และการสอดแทรกมุกล้อเลียนภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดเข้ามาอย่างเนืองแน่น ดังนั้นแล้วสำหรับใครที่ไม่ได้ชื่นชอบภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดหรือการ์ตูนฮีโร่ญี่ปุ่นมากนัก ก็อาจจะไม่สนุกกับเนื้อหาที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอได้เช่นกัน
ในภาพรวมแล้ว What to Do with the Dead Kaiju? เรียกว่าเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล้อเลียนภาพยนตร์ในแนวเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งตัวผู้กำกับก็สามารถนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวได้อย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะมุกตลกขบขันภายในเรื่องที่ไปสุดในทางจนคาดเดาไม่ได้
ขณะเดียวกัน หากคุณอยากจะตีตั๋วเข้าไปดู What to Do with the Dead Kaiju? เพื่อหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็กชันที่ดุเดือด เนื้อเรื่องที่เข้มข้นจริงจัง เราคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะไม่เหมาะกับคุณเท่าไร
What to Do with the Dead Kaiju? เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่