สมคิด ประธาน WHA มอง ทรัมป์ดิสรัปต์เขย่าเศรษฐกิจโลก แนะภาคธุรกิจไทยเร่งปรับตัว เตรียมรับมือความไม่แน่นอน ใช้ AI เพื่อความอยู่รอด ด้าน ‘จรีพร’ พร้อมพาองค์กร Tech-Driven Organization สู่เป้าหมาย Global Brand ชี้อีก 6 ปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ย้ำหากมาถูกทางจะโตมากกว่า 2 เท่า พร้อมเปิดบ้าน WHA จัดงาน WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า WHA จัดงาน Open House เป็นครั้งแรก ต้องบอกว่าไม่มีช่วงเวลาไหนที่จำเป็นเท่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว เนื่องจากระยะหลังหลายปีที่ผ่านมาโลกเปลี่ยนไปเยอะ ทั้งวิกฤตโควิดที่ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งสงครามและภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้เกิดความตึงเครียด ความหวาดระแวง ผลที่ตามมาชัดเจนคือเกิดภาวะที่ไร้ประสิทธิภาพทั้งภาวะทางเศรษฐกิจและการเมือง
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนชนิดสุดโต่ง ซึ่งไม่เคยปรากฏและสร้างความเสียหายมหาศาล สิ่งเหล่านี้สร้างความตระหนักให้กับคนในโลกว่า ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมไม่ใช่เพียงแต่ผลกำไรทางธุรกิจ ที่สำคัญคือไม่มีอะไรที่จะรุนแรงและรวดเร็วเหมือนเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามาและขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาการทางด้านไอที ดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจโดยสิ้นเชิง และก่อให้เกิดการดิสรัปต์
“โดยอะไรที่คิดว่าแน่นอนและมั่นคงในวันนี้ ในไม่ช้าจะสามารถสลายไปในพริบตา จะเห็นได้ว่ามีธุรกิจหลายรายแล้วที่ถูกดิสรัปต์จากดิจิทัลและ AI” สมคิดกล่าว
โดยเฉพาะนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลดีหรือร้ายในคราวเดียวกัน และเกิดความไม่แน่นอนของโลกสูงภายใต้ความเป็นจริงที่ว่าสิ่งที่ไม่แน่นอนกำลังจะกลายเป็นสิ่งที่แน่นอน ดังนั้นหากจะทำธุรกิจความเร็วและความแม่นยำย่อมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สมคิดกล่าวอีกว่า “ถ้าใครไม่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัล, Big Data และ AI ความเชื่องช้าและความไร้ความแม่นยำจะทำให้อยู่ไม่ได้”
ดังนั้นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจ จุดมุ่งหมายในการทำธุรกิจ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต่อไปจุดมุ่งหมายของเราไม่ใช่ผลกำไรและรายได้ ซึ่ง WHA Group โดยซีอีโอให้ความสำคัญและเตรียมตัวมาพอสมควรในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า จุดมุ่งหมายพันธกิจของเราจะไม่มุ่งเน้นกำไรและรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เราเน้นเรื่องของความยั่งยืน การสร้างความมั่นคง รวมถึงความรวดเร็วและแม่นยำกับการอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชน
“การสร้างความสมบูรณ์ให้กับชุมชนที่เราอยู่คือจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของเรา เราต้องการสื่อความในสิ่งนี้ สื่อความในสิ่งที่เราทำ อธิบาย หาแนวร่วม และแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ทั้งภาคเอกชนในทุกวงการเพื่อให้มีความเข้าใจ และสร้างพันธมิตรร่วมกันในการสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้กับภาคเอกชนและสังคมไทยในอนาคตข้างหน้า” สมคิดกล่าว
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future เป็นการเปิดบ้านครั้งแรกเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ WHA Group ในฐานะต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อสร้างและพัฒนาการเติบโตของอุตสาหกรรมระดับโลกจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างสมดุล สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ WHA: WE SHAPE THE FUTURE และความมุ่งมั่นในการเป็น Tech-Driven Organization ด้วยวิสัยทัศน์สู่การเป็น Tech and Sustainable Company ขับเคลื่อนอนาคตอย่างยั่งยืน
จรีพรกล่าวอีกว่า ปีนี้ทิศทางการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในไทยยังมีเข้ามาต่อเนื่อง เนื่องจากไทยมีจุดเด่นในหลายด้าน ทั้งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ซึ่งจะเห็นว่ามีบริษัทเทครายใหญ่อย่าง Google เข้ามาตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) อีกทั้งรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนที่ดีและบุคลากรหรือแรงงานไทยที่มีทักษะพร้อม
ดังนั้นนิคมอุตสาหกรรม WHA มีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่ง แบ่งเป็นประเทศไทย 12 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง อีกทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอีก 5 แห่ง สามารถสร้างตำแหน่งงานและดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้าประเทศมากถึง 1.6 ล้านล้านบาท
“การเปิดบ้านครั้งนี้จะโชว์ต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อสร้างและพัฒนาการเติบโตของอุตสาหกรรมระดับโลกจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลัก และเผยทุกแง่มุมธุรกิจในระบบนิเวศของ WHA จากนิทรรศการและเวทีเสวนาพิเศษโดยผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการทดลองใช้งาน Mobilix โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรรายแรกของไทย WHA พร้อมจะเป็น Global Brand และอีก 6 ปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ถ้ามาถูกทางจะโตมากกว่า 2 เท่า” จรีพรกล่าว