วันนี้ (19 ตุลาคม) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่กองบังคับการปราบปราม ตำรวจควบคุมตัว วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี ผู้ก่อเหตุทำร้าย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มาถึงที่กองบังคับการปราบปราม โดยทันทีที่มาถึง ตำรวจได้คุมตัวขึ้นไปด้านบนชั้น 2 เพื่อสอบปากคำทันที โดยวีรวิชญ์มีสีหน้ายิ้มแย้ม และได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน รวมถึงเพื่อนยูทูเบอร์ที่มารอให้กำลังใจ ทั้งนี้ เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง วีรวิชญ์ตอบสั้นๆ ว่า ก็โอเค เจ้าหน้าที่เขาทำตามหน้าที่
ขณะที่ผู้ติดตามของวีรวิชญ์กล่าวว่า ตอนที่ตำรวจเข้าไปจับกุม มีตำรวจเข้ามากันประมาณ 6 คน โดยไม่ได้ให้ดูหมายจับใดๆ ให้ดูเพียงแค่รูปภาพจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะเป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ฆ่าคนตาย และยังไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน
ขณะที่เพื่อนที่มารอให้กำลังใจกล่าวว่า ตั้งใจมารอให้กำลังใจวีรวิชญ์ เพราะรู้ว่าจะเข้ามามอบตัวอยู่แล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ต้องบุกไปจับกุม ส่วนเรื่องบัญชีที่เปิดรับบริจาค เท่าที่รู้คือวีรวิชญ์ไม่ได้เปิดเอง แต่มีคนเปิดให้ ส่วนยอดบริจาคเมื่อวาน คาดว่าได้ประมาณ 2-3 แสนบาท จะนำไปต่อสู้คดีความ แต่คิดว่าคงไม่พอ เพราะมีคดีเล็กคดีน้อยเยอะ
ด้าน พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามหมายจับค้างเก่าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามตรวจพบ จึงต้องนำกำลังไปจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะลงบันทึกจับกุมที่กองบังคับการปราบปราม และอาจนำตัวไปส่งให้สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พื้นที่ที่เกิดเหตุคือ สน.ดุสิต หรืออาจประสานให้ตำรวจ สน.ดุสิต มารับตัวที่กองบังคับการปราบปราม
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการภายหลังจากถึงที่ สน.ดุสิต แล้ว ตามขั้นตอนพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต จะแจ้งข้อกล่าวหา และจะพิจารณาว่าจะควบคุมตัวไว้หรือจะส่งอัยการและศาลตามขั้นตอนภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้
“ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่เมื่อตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ ณ จุดใด ก็ต้องนำกำลังไปควบคุมตัว ซึ่งที่ผ่านมากองบังคับการปราบปรามก็จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่ามาหลายคดีแล้ว หากทราบว่าอยู่ ณ ที่ใด ก็พร้อมไปเข้าจับกุมทันที” พ.ต.อ. เอนกกล่าว