Wealth Planning-Asset Allocation เครื่องมือบริหารจัดการทรัพย์สินที่ธุรกิจครอบครัวต้องทำ

การทำ Wealth Planning และ Asset Allocation เป็นเครื่องมือบริหารจัดการทรัพย์สินสำหรับธุรกิจครอบครัว เพื่อให้สามารถบริหารจัดการส่งต่อธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและจำเป็นที่จะต้องทำ

ดร.นิติ เนื่องจำนงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส Wealth Planning and Family Office ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Morning Wealth ว่า การทำ Wealth Planning และ Asset Allocation ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับธุรกิจครอบครัว อีกทั้งหลายครอบครัวที่มีธุรกิจกำลังเจออุปสรรคในประเด็นดังกล่าวนี้อยู่ โดยสังเกตได้ว่าหลังจากที่ทายาทได้รับมรดกหรือทรัพย์สินจากครอบครัวที่ส่งต่อมามักไม่ได้มีการวางแผนในการดูแลจัดการไว้ล่วงหน้า ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาอาจมีการเปลี่ยนชื่อเจ้าของทรัพย์สิน โดยใส่ชื่อบุคคลอื่น เช่น ทายาทที่เป็นลูกหลาน เพื่อน หรือชื่อบริษัท

เปิดความสำคัญของ Wealth Planning และ Asset Allocation 

ยกตัวอย่างอีกกรณี คือการดำเนินธุรกิจครอบครัวที่มีการใช้ทรัพย์สินบนที่ดิน ส่วนใหญ่เจ้าของที่ดินที่มีการใช้ประโยชน์จะเป็นชื่อของบุคคลในครอบครัวที่เป็นเจ้าของที่ดิน แต่บริษัทเข้ามาใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจบนที่ดิน

ดังนั้นการทำ Wealth Planning และ Asset Allocation จะเข้ามาช่วยให้ทราบว่าในครอบครัวมีทรัพย์สินรวมจำนวนและมูลค่าเท่าใด เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม และส่งต่อไปยังทายาทในอนาคตได้อย่างถูกต้อง

ดร.นิติ กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องดำเนินการในเรื่อง Wealth Planning และ Asset Allocation ให้เร็วที่สุด เนื่องจากหากสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้มีการวางแผนได้อย่างรวดเร็วขึ้นในการบริหารจัดการทรัพย์สิน อีกทั้งในอนาคตหากมีการรับมอบทรัพย์สินมาใหม่ก็ควรจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าในระยะยาวในการบริหารจัดการทรัพย์สิน เพื่อให้สามารถระบุชื่อของเจ้าของได้อย่างถูกต้องและมีความเหมาะสม

เป็นตัวกำหนดสร้างเป้าหมายของธุรกิจครอบครัว

สำหรับขั้นตอนหรือวิธีการในการดำเนินการทำ Wealth Planning และ Asset Allocation สำหรับธุรกิจครอบครัว ควรเริ่มต้นจากการดำเนินการเริ่มทำบัญชีทรัพย์สินของครอบครัวก่อนที่จะมีธรรมนูญครอบครัว เพื่อให้มีการวางและกำหนดเป้าหมายในการนำทรัพย์สินเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์กับธุรกิจครอบครัว

พร้อมทั้งให้ทายาทและสมาชิกครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลทรัพย์สิน เนื่องจากทายาทจะเป็นผู้ที่เข้ามารับช่วงในการดูแลทรัพย์สินกับธุรกิจของครอบครัวดังกล่าวในรุ่นต่อๆ ไป เพื่อให้มีการวางแผนร่วมกันในการดำเนินการ และส่งต่อธุรกิจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

Wealth Planning สร้างประโยชน์กับธุรกิจอย่างไร

ประโยชน์ในการทำบัญชีทรัพย์สินสำหรับธุรกิจครอบครัว คือทำให้เห็นภาพความชัดเจนของทรัพย์สินที่ธุรกิจครอบครัวมีอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถจัดสรรทรัพย์สินได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้สามารถทำการ Utilize Hard Asset ได้ เช่น การนำทรัพย์สินกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งปัจจุบันมีภาระภาษีที่ต้องจ่าย รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการดูแล มาใช้สร้างประโยชน์ในการทำเป็น Wealth Lending ได้ และสามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนต่อยอดขยายธุรกิจได้อีกด้วย

ดร.นิติ แนะนำต่อว่า ผู้ที่ต้องการเริ่มต้น Wealth Planning และ Asset Allocation ควรที่จะลิสต์ทำรายการทรัพย์สินที่มี รวมถึงการจัดแยกประเภททรัพย์สินของครอบครัวต่างๆ ออกมาเป็นหมวดหมู่ เช่น บัญชีเงินฝาก, อสังหาริมทรัพย์, หุ้น, กองทุน, ประกัน ฯลฯ เพื่อให้ทราบข้อมูลของสินทรัพย์ที่ครอบครัวมีอยู่ทั้งหมดก่อน จากนั้นจึงมีการจัดกลุ่มแยกออกมาว่าทรัพย์สินดังกล่าวที่กล่าวมานั้นมีบุคคลใดเป็นเจ้าของที่มีชื่อครอบครองอยู่

ทั้งนี้ หลังจากทราบข้อมูลแล้วว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของทรัพย์สินในครอบครัว ก็ควรมีการชักชวนให้เข้ามาวางแผนร่วมกันในการกำหนดเป้าหมายของทรัพย์สินที่มีอยู่ดังกล่าวร่วมกัน

ภาพ: Daenin / Shutterstock