ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่มันคือรากฐานของธุรกิจในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ธุรกิจที่ไม่มี AI ไม่เพียงแค่จะล้าหลัง แต่อาจมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป
ภายในงาน Google Cloud Next 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2025 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม
ในปีนี้ THE STANDARD WEALTH ได้รับเชิญมาร่วมงานในฐานะตัวแทนสื่อไทยหนึ่งเดียว พร้อมเข้าร่วมเวที Next ’25 Opening Keynote: The New Way to Cloud ในวันแรก (9 เมษายน) โดยมีบุคคลสำคัญอย่าง Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ร่วมฉายภาพเทรนด์ของ AI ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมการทำธุรกิจต่อจากนี้
“Google ลงทุนใน AI มานานกว่าหนึ่งทศวรรษ เราเห็นว่ามันคือหนทางที่สำคัญที่สุดที่เราจะสามารถยกระดับภารกิจขององค์กรในการจัดการข้อมูลของโลกและทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โอกาสที่มาพร้อมกับ AI นั้นยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และนั่นคือเหตุผลที่เราเลือกลงทุนในนวัตกรรม AI อย่างเต็มรูปแบบ” Pichai กล่าว
Pichai ยืนยันว่า จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ AI ราว 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท ทั้งเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ คือ Cloud Wide Area Network หรือ Cloud WAN) ซึ่งทำงานด้วยความเร็วระดับ ‘Google speed’ – ความหน่วงต่ำเกือบเป็นศูนย์ ที่ให้บริการผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก จะเปิดให้กับองค์กรทุกแห่งใช้งานได้แล้ว
“Cloud WAN จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบเครือข่ายเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 40% พร้อมกับช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของเครือข่ายได้สูงสุดถึง 40% เช่นกัน”
ปัจจุบัน Cloud WAN ครอบคลุม 42 พื้นที่ทั่วโลก โดยมีสถานที่ใหม่ในสวีเดน แอฟริกาใต้ และเม็กซิโก และกำลังเร่งขยายเพิ่มเติมในคูเวต มาเลเซีย และประเทศไทย ภูมิภาคเหล่านี้เชื่อมต่อกันด้วยสายเคเบิลบนบกและใต้ทะเลรวมระยะทางมากกว่า 2 ล้านไมล์
Thomas Kurian ซีอีโอ Google Cloud กล่าวถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี AI บนเวที ว่า “สิ่งที่สะท้อนความสำเร็จของเราได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของลูกค้า”
ภายในงานปีนี้ Google Cloud ได้เล่าเรื่องราวความสำเร็จจากลูกค้ากว่า 500 ราย ทั้งในภาครัฐและเอกชน เช่น รัฐบาลสิงคโปร์, Honeywell, L’Oréal Groupe, McDonald’s, Papa Johns, Reddit, Samsung, Sphere และอีกมากมาย พร้อมผลลัพธ์ที่วัดได้จริง
AI กำลังปฏิวัติหลายอุตสาหกรรม
แน่นอนว่า AI ทำให้หลายอุตสาหกรรมทำงานได้ง่ายขึ้น แต่อีกหลายอุตสาหกรรมก็กำลังเผชิญกับความท้าทาย
ธุรกิจร้านอาหารอย่าง McDonald’s สามารถให้บริการลูกค้า 65 ล้านคนต่อวันได้อย่างราบรื่นด้วยการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ ทั้งการจัดการคิวและการควบคุมคุณภาพอาหาร
ขณะที่อุตสาหกรรมสื่อก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมหาศาล เมื่อธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างสรรค์สื่ออย่างวิดีโอเพื่อใช้สำหรับการตลาดได้ด้วย AI และสามารถทำได้รวดเร็วกว่าเดิมอย่างมาก หรือแม้แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ปัจจุบัน AI สามารถช่วยสร้างภาพยนตร์ได้แล้ว ในขณะที่ผู้ผลิตสื่ออาจจำเป็นจะต้องปรับตัวและสร้างจุดแข็งแข่งกับ AI
เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วย AI เหล่านี้ กำลังสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ให้กับลูกค้าจริง Agoda แพลตฟอร์มท่องเที่ยวดิจิทัลชั้นนำ ใช้ Imagen และ Veo บน Vertex AI เพื่อสร้างภาพและวิดีโอที่สวยงามและดึงดูดใจของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และกระตุ้นยอดจองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Bending Spoons นักพัฒนาแอปชื่อดัง ได้นำ Imagen 3 ไปใช้กับแอปแต่งภาพ Remini เพื่อเปิดตัวฟิลเตอร์ AI ใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยระบบสามารถประมวลผลภาพถ่ายได้มากถึง 60 ล้านภาพต่อวัน ขณะที่ Kraft Heinz ใช้ AI เพื่อย่นระยะเวลาในการสร้างแคมเปญการตลาด จากเดิม 8 สัปดาห์ เหลือเพียง 8 ชั่วโมง
ผู้ช่วยมนุษย์ ‘AI Agents’ กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจในทุกมิติ
Google Cloud เผยว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI Agents ที่มีความสามารถขั้นสูง ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดหรือวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังปฏิวัติประสบการณ์ลูกค้า และการสร้างสรรค์เนื้อหาในองค์กรด้วย อาทิ
Customer Agents – ปฏิวัติประสบการณ์ลูกค้า
AI ช่วยให้ลูกค้าหาคำตอบหรือสินค้าที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายรูปแบบ (ข้อความ, เสียง, ภาพ, วิดีโอ) และสื่อสารเหมือนมนุษย์ ไม่ว่าจะใช้งานผ่านเว็บ, อุปกรณ์, ศูนย์บริการ, หรือในรถยนต์
- Globo เพิ่มอัตราการคลิกวิดีโอในแพลตฟอร์มกว่า 2 เท่า
- DBS ลดเวลาการให้บริการลูกค้าลงถึง 20%
- Wendy’s ใช้ระบบสั่งอาหารผ่าน Drive-Thru แบบ AI กว่า 60,000 รายการต่อวัน
- Mercedes-Benz เพิ่มประสบการณ์ผู้ขับขี่ด้วยการค้นหาด้วยเสียงในรถ
Creative Agents – ผู้ช่วยสร้างสรรค์ไอเดีย
ช่วยทีมสร้างเนื้อหา, แคมเปญโฆษณา หรือออกแบบงานสร้างสรรค์ต่างๆ ได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
- Agoda ใช้ Imagen และ Veo สร้างภาพและวิดีโอท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดลูกค้า
- Kraft Heinz ลดเวลาการสร้างแคมเปญจาก 8 สัปดาห์เหลือแค่ 8 ชั่วโมง
- Adobe ร่วมกับ Google AI นำโมเดล Imagen 3 และ Veo 2 ไปใช้ใน Adobe Express
Data Agents – วิเคราะห์และใช้ข้อมูลได้ง่าย
ช่วยจัดการข้อมูล ทั้งการเตรียมข้อมูล, วิเคราะห์, สร้างโมเดล และการดึงข้อมูลผ่านภาษาแบบธรรมชาติได้เลย
- Spotify ใช้ BigQuery วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 675 ล้านคน
- Bayer ใช้ข้อมูลร่วมกับ Google Trends พยากรณ์การระบาดของไข้หวัด
