บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินชั้นนำหลายสำนักต่างแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ค่าเงินหยวน ที่อ่อนค่าลงอย่างหนักในห้วงเวลานี้ กำลังกลายเป็นภัยเสี่ยงคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย ลาตินอเมริกา และแอฟริกา
ความเห็นครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้าเงินหยวนเพิ่งจะได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ช่วยเป็นเกราะกำบังปกป้องบรรดานักลงทุนจากปัญหาความตึงเครียดขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และภาวะเงินเฟ้อ
รายงานระบุว่า เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน และฉุดให้ค่าเงินอ่อนค่าลงจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ Goldman Sachs Group Inc ยัน SEB AB ออกมาคาดการณ์ว่า เงินหยวนอ่อนค่าจะส่งผลกระทบภาคการส่งออกของนานาประเทศ ตลอดจนเสี่ยงที่จะจุดชนวนให้เกิดสงครามค่าเงินที่หลายประเทศแข่งกันลดค่าเงิน เพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดส่งออก
Per Hammarlund หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดเกิดใหม่ของธนาคาร Skandinaviska Enskilda Banken กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มที่ค่าเงินหยวนที่เดินหน้าอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ทำให้หลายประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยน และเกรงว่าหากค่าเงินหยวนยังอ่อนค่าต่อไป จะทำให้ประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่แข่งกันลดค่าเงิน จุดชนวนกลายเป็นสงครามค่าเงินระลอกใหม่
ด้านผู้จัดการการเงินของ Societe Generale SA, Nomura Holdings Inc. และ Credit Agricole CIB ประเมินว่า ค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงอย่างหนักจนกระทั่งเลยแนวจิตวิทยาที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้
ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนปรับตัวอ่อนค่าลงเป็นเดือนที่ 6 ต่อเนื่องกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นการปรับลดค่าเงินหยวนที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ปี 2018 โดยมีสาเหตุฉุดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าจากนโยบาย Zero COVID, วิกฤตอสังหาริมทรัพย์, เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้น ซึ่งแม้ว่าทางธนาคารกลางจีนจะเร่งดำเนินการดันให้ค่าเงินหยวนขยับขึ้น แต่การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็ทำให้การดำเนินการต่างๆ ของธนาคารกลางจีนไม่ได้ผล
ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดย Goldman และ Societe Generale กล่าวว่า ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงจะฉุดให้เงินวอนเกาหลีใต้, เงินดอลลาร์ไต้หวัน, เงินบาทไทย, เงินริงกิตมาเลเซีย และเงินแรนด์แอฟริกาใต้ ลดลงไปด้วย ขณะที่ SEB มองว่า เงินเปโซเม็กซิกัน, ฟอรินต์ฮังการี, ลิวโรมาเนีย และลีราตุรกี จะเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุด
Phoenix Kalen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Societe Generale กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าและการเงินระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เติบโตแน่นแฟ้นมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความเชื่อมโยงที่ฝังลึกนี้ทำให้เป็นเรื่องยากที่ตลาดเกิดใหม่เหล่านี้จะแยกตัวออกจากจีน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP