×

4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาปริมาณน้ำขยับดีขึ้น คาดน้ำต้นทุนพอถึงต้นฤดูแล้งหน้า คุมเข้มแผนการจัดการ

โดย THE STANDARD TEAM
05.08.2020
  • LOADING...

วันนี้ (5 สิงหาคม) ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน โดยรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝน และการเพาะปลูกพื้นที่ราบภาคกลางสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12 ว่า 

 

จากอิทธิพลของพายุ ‘ซินลากู’ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะบริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ฝนตกหนักมากในพื้นที่จังหวัดน่าน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมาก 

 

นอกจากนั้น ด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำน่านเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 31 กรกฎาคมถึง 4 สิงหาคม ปริมาณน้ำ 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยามีน้ำไหลเข้าแล้วรวม 250 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่ง กอนช. คาดการณ์ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าอีก 3 วันข้างหน้า ช่วงวันที่ 5-7 สิงหาคมจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 337 ล้านลูกบาศก์เมตร 

 

โดยล่าสุดปริมาณน้ำใช้การได้ 4 เขื่อน ณ วันที่ 4 สิงหาคม มีปริมาณน้ำรวมสิ้น 838 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล 137 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนสิริกิติ์ 531 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 86 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำได้ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  

 

โดยผลการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกฤดูฝนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปี 2563 ขณะนี้มีการจัดสรรน้ำแล้วจำนวน 2,435 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 75% จากแผน 3,250 ล้านลูกบาศก์เมตร คงเหลือปริมาณน้ำตามแผนที่ต้องจัดสรรเสริมกับฝน 815 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 25% ส่วนผลการเพาะปลูกข้าวนาปี ปี 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2563) เพาะปลูกข้าวไปแล้ว 3.547 ล้านไร่ จากแผน 8.10 ล้านไร่ คิดเป็น 43.80% 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบปริมาณน้ำใช้การ 4 เขื่อนหลักในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 พบว่ามีปริมาณน้ำใกล้เคียงกัน ขณะที่การประเมินปริมาณน้ำต้นฤดูแล้งปี 2563/64 ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ปริมาณน้ำใช้การได้ 5,969 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 33% เมื่อเทียบกับปี 2562 ปริมาณน้ำใช้การ 5,376 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 30% ซึ่งถือว่ายังเป็นปริมาณน้ำน้อย กอนช. จึงได้กำชับหน่วยงานดำเนินการปรับแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงควบคุมการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผนอย่างเคร่งครัด ถึงแม้หลายพื้นที่มีฝนตกมาแล้ว สามารถปลูกข้าวนาปีได้ แต่ยังต้องขอความร่วมมือเกษตรกรเริ่มทำการเพาะปลูกได้เมื่อมีฝนตกสม่ำเสมอและปริมาณน้ำในพื้นที่เพียงพอแล้ว ซึ่งการบริหารจัดการน้ำจะเป็นการจัดสรรจากอ่างฯ เสริมน้ำท่าและน้ำฝนท้ายอ่างฯ ให้กับพื้นที่เพาะปลูก 

 

ทั้งนี้ กอนช. จะมีการประเมินปริมาณน้ำต้นทุนเป็นระยะๆ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเน้นการเก็บกักน้ำในอ่างฯ และแหล่งน้ำต่างๆ ให้มากที่สุดไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง รวมถึงการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เพื่อจัดทำแผนเตรียมการป้องกันและบรรเทาผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ 

 

ดร.สมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่จากอิทธิพลของพายุซินลากู ส่งผลกระทบในพื้นที่ 13 จังหวัด 45 อำเภอ 109 ตำบล 459 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 2 หมื่นครัวเรือน ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรเครื่องมือให้ความช่วยเหลือจนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันในระยะนี้ จึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำหลากบริเวณพื้นที่ราบเชิงเขาบริเวณภาคเหนือตอนบน บริเวณลำน้ำลาว ลำน้ำกอน จังหวัดเชียงราย แม่น้ำแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก รวมถึงเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณลำน้ำลาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย แม่น้ำน่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน และแม่น้ำป่าสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นต้น 

 

กอนช. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ตรวจสอบปริมาณน้ำ ความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กในพื้นที่ประสบภัย เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม ลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ และเร่งเก็บกักน้ำควบคู่กันด้วย

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X