สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานจับตาการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปีของประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง ในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่นำไปสู่การบรรลุข้อตกลงด้านการค้าการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ระหว่างจีนกับซาอุดีอาระเบีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
สื่อท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า การเยือนครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจีนและภูมิภาคอ่าวอาหรับกำลังกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียได้พังทลายลงจากการตัดสินใจของ OPEC ในการลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทาน และเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับโลกอาหรับให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย และเป็นแหล่งการลงทุนที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ยังเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในตะวันออกกลาง และเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก
Ayham Kamel หัวหน้าทีมวิจัยตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของ Eurasia Group ระบุว่า ความร่วมมือด้านพลังงานจะเป็นศูนย์กลางของการหารือทั้งหมดระหว่างผู้นำซาอุดีอาระเบียกับจีน และทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักถึงความจำเป็นอย่างมากในการสร้างกรอบการทำงานร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการพึ่งพาซึ่งกันและกันนี้จะเอื้ออำนวยในทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากขอบเขตของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในซีกโลกตะวันตก
รายงานระบุว่า ขณะนี้บรรดารัฐบาลทั่วโลกต่างมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างมากในช่วง 10 ปีหน้า ที่ประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา และเยอรมนี ได้เพิ่มการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนเป็น 2 เท่า เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจสุทธิเป็นศูนย์ ขณะที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มการผลิตน้ำมันและก๊าซในประเทศอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงปี 2000 ในขณะที่เร่งการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด
การรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ได้จุดชนวนวิกฤตพลังงานทั่วโลก ซึ่งทำให้ทุกประเทศต้องเร่งหาเสบียงสำรอง โดยเฉพาะหลังจากที่หลายชาติตะวันตกประกาศใช้นโยบายคว่ำบาตรและกำหนดเพดานราคาน้ำมันสูงสุดต่อรัสเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศอื่นๆ ต่างแสวงหาความมั่นคงด้านพลังงาน รวมถึงจีน ซึ่งถือเป็นประเทศบริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมามูลค่าการค้าระดับทวิภาคีของจีนกับซาอุดีอาระเบียอยู่ที่ 8.73 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2020 โดยการค้าส่วนใหญ่คือการซื้อขายน้ำมัน ซึ่งจีนได้นำเข้าน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียที่ 4.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2021 คิดเป็นสัดส่วนถึง 77% ของสินค้านำเข้าทั้งหมดของจีน ซึ่งเทียบเท่า 1 ใน 4 ของการส่งออกน้ำมันดิบทั้งหมดของซาอุดีอาระเบีย
Eswar Prasad ศาสตราจารย์ด้านนโบายการค้าของมหาวิทยาลัยคอร์แนล ระบุว่า การรักษาเสถียรภาพด้านซัพพลายพลังงานทั้งในด้านราคาและปริมาณ ถือเป็นหัวใจสำคัญของสีจิ้นผิงในการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย และพบปะกับบรรดาผู้นำชาติอื่นๆ ในกลุ่มตะวันออกกลาง โดยจีนถือเป็นชาติที่พึ่งพาการนำเข้าพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศที่ 72% และ 44%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รมว.ท่องเที่ยว ซาอุดีอาระเบีย หวังจีนเลิกคุมเข้มโควิด และเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง
- ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ประกาศลดราคาน้ำมันให้ผู้ซื้อในเอเชีย ท่ามกลางวิกฤตโควิดจีน แต่ยังคงราคาขายให้สหรัฐฯ
- ชมคลิป: เบื้องหลัง THE LINE เมืองแห่งอนาคตของซาอุดีอาระเบีย | KEY MESSAGES
อ้างอิง: