เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (29 กันยายน) บริเวณภายในวัดศรีสุพรรณ ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเจดีย์ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 500 ปี พังถล่มลงมาแทบทั้งองค์ เหลือเพียงบางส่วนที่ยังคงติดอยู่กับฐานของเจดีย์เท่านั้น การพังถล่มครั้งนี้สืบเนื่องจากเกิดฝนตกในจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง
จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้เกิดรอยแตกเป็นแนวยาวประมาณ 2 นิ้ว กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนรอยแตกเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณ 5 นิ้ว ทำให้น้ำฝนไหลแทรกตามแนวรอยร้าวเข้าไปภายในเจดีย์ ทำให้ภายในเจดีย์ชุ่มน้ำจนไม่สามารถรับน้ำหนักได้จึงพังถล่มลงมา
พระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ กล่าวว่า เจดีย์นี้สันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 500 ปี ก่อสร้างแบบโบราณไม่มีคานหรือโครงสร้างสำหรับรับน้ำหนัก ผ่านการบูรณะมาหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายได้ทำการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2518 และเหตุการณ์เจดีย์ถล่มครั้งนี้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะหิน ทราย ปูนหมดอายุ จึงถล่มลงมาเมื่อเวลา 17.15 น. ของวันนี้
สำหรับภายในพระธาตุได้บรรจุสารีริกธาตุ, พระพุทธรูปโบราณ คู่กับชุมชนช่างหล่อที่ประวัติมายาวนาน สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงความเสียหายที่เกิดกับรั้วและพื้นอาคารเรียนของโรงเรียนเทศบาลวัดศรีสุพรรณ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับวัดศรีสุพรรณ ได้ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2043 สมัยของพญาแก้ว ราชวงศ์มังราย โดยพระนางสิริยสวดี พระราชมารดามหาเทวีเจ้า โปรดให้สร้างวัดชื่อว่า วัดศรีสุพรรณอาราม เรียกสั้นๆ ว่า ‘วัดศรีสุพรรณ’ และทำการผูกพัทธสีมาอุโบสถเมื่อ พ.ศ. 2052 และสร้างวิหาร พระบรมธาตุเจดีย์ อุโบสถ และนำพระพุทธปาฏิหาริย์ มาประดิษฐานในอุโบสถวัด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2400
ปัจจุบันมีอุโบสถเงินที่ถือว่าเป็นแห่งเดียวในโลก เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2547 เพราะอุโบสถหลังเดิมชำรุด อีกทั้งชุมชนรอบบริเวณวัดได้สืบทอดอาชีพการทำเครื่องเงินซึ่งเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมานานกว่า 200 ปี
ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ