ผู้บริหาร ธปท. เตือนหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ ชี้หากไม่ถูกปลดชนวนโดยเร็วอาจระเบิดภายใน 10 ปี สร้างผลกระทบในวงกว้าง
ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในปีล่าสุดที่ขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90.1% ต่อ GDP ในรายการ WEALTH IN DEPTH ของ THE STANDARD WEALTH ว่า ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นระดับที่น่ากังวล และถือเป็นระเบิดเวลาตัวหนึ่งของเศรษฐกิจไทยที่พร้อมจะระเบิดได้หากเกิดการช็อกทางเศรษฐกิจในอนาคต
“มีไม่กี่ประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงเกิน 90% ของ GDP และส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีรายได้สูง ไทยจึงถือเป็นประเทศรายได้ปานกลางที่มีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุด ซึ่งหากนับรวมหนี้อื่นๆ เช่น หนี้นอกระบบ หนี้ กยศ. และหนี้สหกรณ์ด้วยตัวเลขจะเกิน 90.1% ไปอีกพอสมควร” ดอนกล่าว
ดอนระบุว่า การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากหลายปัจจัย โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการหดตัวของ GDP แต่สาเหตุหลักคือการที่สังคมไทยเป็นสังคมบริโภคนิยม มีวัฒนธรรมที่เรียกว่า ‘ของมันต้องมี’ ซึ่งเห็นได้จากกลุ่มวัยเริ่มทำงานในปัจจุบันที่ก่อหนี้เร็วขึ้นและสูงขึ้นกว่าในอดีต ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินหลายแห่งเองก็หันมาขยายสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงด้วย ทำให้องค์ประกอบที่หนี้จะสูงขึ้นมีพร้อมทั้งในฝั่งอุปสงค์และอุปทาน
“หากเราส่องไปยังไส้ในของหนี้ครัวเรือนไทยจะพบว่าเรามีสัดส่วนของหนี้ที่อยู่อาศัย 34.5% หนี้รถยนต์-จักรยาน 12% หนี้เพื่อประกอบอาชีพ 10% ส่วนหนี้ไม่มีหลักประกันจำพวกบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลซึ่งเป็นส่วนที่เรากังวลมีอยู่ราว 8% แม้ว่าตัวเลขที่ 8% จะดูไม่มาก แต่ในปีที่ผ่านมาหนี้กลุ่มนี้เติบโตขึ้นถึง 12.9% ถือว่าเพิ่มขึ้นเร็วและแรงกว่าหนี้ประเภทอื่นซึ่งอาจเป็นผลจากภาวะโควิดที่ทำให้คนต้องการสภาพคล่อง” ดอนกล่าว
ดอนกล่าวอีกว่า แม้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยในขณะนี้จะยังไม่ส่งสัญญาณที่จะระเบิดในเวลาอันใกล้ แต่หากปล่อยไว้และไม่ได้รับการแก้ไขหรือถอดชนวนอย่างทันท่วงที ความเสี่ยงที่ปัญหานี้จะนำไปสู่วิกฤตจะเพิ่มสูงขึ้น เช่น ในกรณีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอย หรือการที่ดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตจะกลับเข้าสู่ขาขึ้น หากระดับหนี้ยังอยู่ในระดับสูงก็จะก่อให้เกิดปัญหาผิดนัดชำระตามมา ซึ่งจะกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงความมั่นคงของสถาบันการเงิน
“โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าหากเราปล่อยปัญหานี้ทิ้งไว้ ภายใน 10 ปีมันจะระเบิดแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าในกรณีที่ระเบิดจะมีผลกระทบที่ตามมาเป็นวงกว้าง สถาบันการเงินจะมีปัญหาเพราะคนชำระหนี้ไม่ได้ ธุรกิจต้องปิดกิจการ ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงและน่าเป็นห่วงคือเอสเอ็มอี” ดอนระบุ
ดอนยังกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารพาณิชย์ไทย 4 แห่งถูกบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ปรับลดเครดิตว่าหนึ่งในข้ออ้างของการปรับลดอันดับดังกล่าวคือปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยที่สูง อย่างไรก็ดี ยังมองว่าโอกาสที่เครดิตของประเทศไทยจะถูกปรับลดตามลงไปยังมีน้อยมาก เนื่องจากความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล ขนาดของเศรษฐกิจและเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี