วันนี้ (4 พฤษภาคม) วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยตั้งค่าการเข้าถึงแบบสาธารณะ ในหัวข้อ ‘จะนายกฯ คนนอก หรือนายกฯ สำรองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 อะไรก็เกิดขึ้นได้’ มีรายละเอียดระบุว่า
หาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอันเป็นไปไม่ว่าจะด้วยเหตุใด เช่น ลาออก หรือถูกโหวตไม่ไว้วางใจ หรือศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ตัดสินเรื่องนายกฯ 8 ปี ในระหว่างนั้นก็จำต้องหานายกฯ คนใหม่
โดยหลักแล้วก็ต้องเอานายกฯ ในบัญชีรายชื่อก่อน ถ้ามาโหวตในรัฐสภาแล้วใครได้ คนนั้นก็เป็นนายกฯ ไป แต่ถ้าโหวตแล้วก็ยังไม่ได้ ทีนี้แหละจึงจะต้องใช้ก๊อก 2 หานายกฯ คนนอกที่มีคุณสมบัติตามที่ รธน. กำหนด ไม่ว่าจะเป็น พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, วราวุธ ศิลปอาชา หรือแพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หรือจะเป็นบุคคลอื่นใดก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือ
- สมาชิกรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ครึ่งหนึ่งจำนวน 363 คน เข้าชื่อเสนอต่อประธานชวน ขอให้มีมติเอานายกฯ คนนอก
- จากนั้นประธานต้องจัดให้มีการประชุมร่วมกันเพื่อขอมติ ถ้าได้เสียงมติ 484 เสียง ก็ถือว่าที่ประชุมต้องการให้เอานายกฯ คนนอก
- ต่อจากนั้นก็เป็นขั้นตอนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ จะเป็น พล.อ. ประวิตร หรือใครก็ได้ตามที่ว่ามานั้น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนตรงนี้
วันชัยระบุอีกว่า ดูหน้าดูตานายกฯ สำรอง หรือนายกคนฯ นอกเท่าที่เห็นในขณะนี้ ถ้าไม่มีใครลอยมาจากไหน พล.อ. ประวิตร ก็ดูเหมือนจะเห็นเด่นชัดที่สุด เพราะท่านเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส. จำนวนมากในระดับหนึ่ง
ทั้งสามารถจะประสานความร่วมมือกับพรรคการเมืองเล็กและใหญ่ได้ พรรคไหนไม่ร่วมก็ให้เป็นฝ่ายค้านไป เรียกว่าเป็นรัฐบาลประสานความร่วมมือเฉพาะกาล แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สำคัญๆ เฉพาะกิจ นำไปสู่การเลือกตั้งด้วยความสมานฉันท์ร่วมกันทุกฝ่าย แม้ว่าจะมีคนนอกคนอื่นที่จะเป็นนายกฯ ได้ แต่ก็ไม่มีความพร้อม ไม่มีเสียงสนับสนุนในสภาเหมือน พล.อ. ประวิตร
ดังนั้นกระแสข่าวเรื่องนายกฯ สำรอง หรือนายกฯ คนนอกตาม รธน. มาตรา 272 จึงพุ่งเป้าไปที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ
“ส่วนจะได้เป็นจริงหรือไม่ ก็แล้วแต่โชคชะตาฟ้าลิขิต” วันชัยระบุในตอนท้าย
อ้างอิง: