วานนี้ (10 สิงหาคม) วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า จากการพูดคุยและหารือกับ สว. ในระดับแกนนำหลายกลุ่ม ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ายินดีจะให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีที่สามารถรวมเสียงข้างมากของสภาได้ เพื่อให้เกิดรัฐบาลโดยเร็ว มิฉะนั้นประชาชนจะมองว่า สว. เป็นอุปสรรคและปัญหา
ดังนั้นใครรวมเสียงข้างมากได้ และไม่มีนโยบายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 สว. จะไม่มีปัญหาใดๆ จึงพูดได้เลยว่าเสียงส่วนใหญ่จะโหวตให้กับนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยผ่านฉลุยอย่างแน่นอน แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ สว. จะไม่โหวตให้ แต่เท่าที่เห็นเขาประกาศว่าสามารถรวมเสียงข้างมากได้ สว. จึงจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เต็มกำลัง
ทั้งนี้ วันชัยเชื่อว่าจากประสบการณ์ของพรรคเพื่อไทยจะประสานทุกฝ่ายให้ได้เสียงข้างมากจนได้ ทั้งจากพรรคการเมืองทุกฝ่ายและ สว. ก็ทราบว่ามีการประสานมาที่สมาชิกบางคนแล้ว จึงเชื่อว่าเขาสามารถรวมเสียงข้างมากได้
เมื่อถามว่าการประกาศแบบนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคเพื่อไทยว่าไม่ต้องกลับไปง้อก้าวไกลใช่หรือไม่ เพราะ สว. พร้อมจะโหวตให้ วันชัยยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน หากก้าวไกลจะโหวตให้เพื่อไทยก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล เพียงแค่จะส่งสัญญาณให้รู้ว่า สว. ไม่ใช่อุปสรรค และพร้อมสนับสนุนเสียงข้างมาก แต่ใครจะเอาไปตีความอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่เจตนาโดยตรงไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล
ดังนั้น ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะรวมเสียงได้เท่าไรขอเพียงเป็นเสียงส่วนมากของสภาก็น่าจะได้รับเสียง สว. ไปเติมจนเพียงพอจนได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธพรรคเพื่อไทย สว. ส่วนใหญ่จึงอยากให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว
ส่วนในการจัดตั้งรัฐบาลจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐร่วมด้วยหรือไม่นั้นไม่ใช่เงื่อนไขของ สว. ในการโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เพราะประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องประเด็นการเมืองที่แต่ละพรรคต้องไปคุยกัน และเป็นความมั่นใจของพรรคการเมืองเอง
ทั้งนี้ในกรณีหากที่สุดแล้วเสียงข้างมากเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นของพรรคอื่น วันชัยระบุว่า สว. ไม่สนใจว่าผู้ที่ถูกเสนอชื่อนายกเป็นใคร ขอเพียงแค่รวมเสียงข้างมากได้เราก็ยินดีสนับสนุนคนนั้น ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับผิดชอบ
