วอลล์สตรีททะยาน ดาวโจนส์พุ่งกว่า 600 จุด อานิสงส์นักลงทุนคลายวิตกสายพันธุ์โอไมครอน เชื่อไม่รุนแรง

บรรยากาศตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเปิดตลาดรับวันแรกของสัปดาห์แรกในเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี 2021 ด้วยความคึกคักสดใส โดยเมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม) สามารถปิดตลาดในแดนบวก สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มคลายความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่กำลังระบาดอย่างรวดเร็วกว่า 40 ประเทศทั่วโลกอยู่ในเวลานี้

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับปรับตัวเพิ่มขึ้น 646.95 จุด หรือ 1.87% ปิดที่ 35,227.03 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 4,591.67 จุด และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 139.68 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 15,225.15 จุด

ความวิตกกังวลของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดเริ่มคลี่คลายในทางบวก หลังมีรายงานในแอฟริกาใต้ระบุอาการติดเชื้อของสายพันธุ์โอไมครอนไม่รุนแรงอย่างที่วิตก ขณะที่ ดร.แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขและโรคติดเชื้อของทำเนียบขาวระบุว่า จากหลักฐานที่ปรากฏ สายพันธุ์โอไมครอนดูเหมือนจะไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง กระนั้นก็ยังไม่วายย้ำว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่าโอไมครอนไม่เป็นอันตรายจนน่าวิตก และต้องรอดูรายงานผลการศึกษาเพิ่มเติมก่อน

ในส่วนของมาตรการรับมือ ทำเนียบขาว สหรัฐฯ ระบุว่า จะมีการพิจารณาทบทวนเป็นรายวัน เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวบางประเทศเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ

สำหรับหุ้นที่มีแรงซื้อกลับเข้ามามากที่สุดเมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม) คือหุ้นในกลุ่มการเงินการธนาคารและหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยนักลงทุนอีกส่วนหนึ่งต่างรอดูรายงานตลาดงานที่จะมีการเปิดเผยในช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ อีกทั้งยังรออ่านรายงานแนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.43% ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 4.40 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,779.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวขานรับข่าวดีโอไมครอน โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 5% ซึ่งราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสงวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 3.20 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ 73.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ขณะที่ในส่วนของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ กลับปรับตัวลดลงสวนกระแสตลาด สะท้อนความกังวลของนักลงทุนในตลาดคริปโต โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงมากกว่า 20% จากราคาประมาณ 57,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 48,600 ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งแย้งว่า ราคาที่ปรับลดลงเป็นผลจากการที่สถาบันรายใหญ่เทขายบิทคอยน์เพื่อหวังทำกำไรส่งท้ายปี ท่ามกลางตลาดที่ค่อนข้างผันผวน

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH