บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพลิกฟื้นกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้งหลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้าเกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ จนทำให้ดัชนี S&P500 ร่วงหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบปี และทำสถิติกลายเป็นการเริ่มซื้อขายที่แย่ที่สุดในรอบปีนับตั้งแต่ปี 1939 ทำให้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ปรับตัวร่วงลงมาแล้ว 13%
ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 84.29 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 33,061.50 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 23.45 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 4,155.38 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับเพิ่มขึ้น 201.38 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 12,536.02 จุด
แรงซื้อที่กลับเข้ามาหลังนักลงทุนแห่เทขายล็อตใหญ่ เป็นผลพวงจากการที่บรรดานักลงทุนช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ขณะที่ประเด็นที่จะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดในรอบสัปดาห์นี้ ย่อมหนีไม่พ้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่คาดการณ์ว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้จริง ก็จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นของช่วงเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ในส่วนของราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 105.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 107.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นเพราะได้ปัจจัยหนุนมาจากการที่ทางสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มจะแบนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในช่วงสิ้นปี
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 48.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,863.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วันเดียวกัน มีรายงานว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศจัดสรรงบราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนที่จะช่วยกระตุ้นการถลุงแร่ลิเธียม วัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน และทำให้สหรัฐฯ เป็นอิสระ ลดการพึ่งพาพลังงานจากภายนอก
มิทช์ แลนดริว ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นไปในทิศทางบวก สหรัฐฯ จำเป็นต้องเพิ่มการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และจำเป็นต้องมีการจัดหาวัสดุสำคัญในประเทศอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน เช่น ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล และกราไฟต์ ซึ่งทั้งหมดใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2022/05/02/investing/stocks-sell-may-go-away/index.html
- https://www.cnbc.com/2022/05/01/stock-market-futures-open-to-close-news.html
- https://edition.cnn.com/2022/05/02/politics/biden-administration-lithium-batteries/index.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP