สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักในตลาดวอลสตรีทที่เฝ้าจับมองชาร์ตความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Michael Purves ที่ปรึกษาของบริษัทด้านการลงทุน Tallbacken Capital ซึ่งเผยรายงานการวิเคราะห์ทางเทคนิคของแพตเทิร์นการซื้อขายบิตคอยน์ที่พบว่า ราคาบิตคอยน์ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้สอดคล้องกับ RSI (Relative Strength Index) และโมเมนตัมขาขึ้นของบิตคอยน์ค่อนข้างที่จะจืดจาง
ทั้งนี้ RSI คือเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้เพื่อดูแนวโน้มราคาหุ้นหรือสินค้าอื่นๆ ในการลงทุน โดยหลักแล้ว RSI จะมีเส้นที่ให้ค่ามาสองค่าคือ Overbought ที่หมายถึงมีการซื้อมากเกินไป ส่วนอีกเส้นคือ Oversold ที่หมายถึงการขายมากเกินไป
โดย Purves ระบุว่า จากมุมมองทางเทคนิคล้วนๆ ที่พิจารณาจากกราฟ พบว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มเผชิญแนวต้านในระยะเวลาอันใกล้นี้
รายงานระบุว่า การตัดสินใจออกมาแสดงความเห็นของ Purves ถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่วอลล์สตรีทจะเพิกเฉยได้อีกต่อไป ท่ามกลางหลายบริษัทที่เปิดทางให้ลูกค้าได้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ขณะที่สถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งก็เข้ามาผูกบิตคอยน์ไว้ในพอร์ตการลงทุนของบริษัทมากขึ้น ซึ่งการที่นักวิเคราะห์กราฟใช้ความเชี่ยวชาญเข้ามาวิเคราะห์ทำให้ตลาดรับรู้ได้ว่า บิตคอยน์ในขณะนี้มีบทบาทต่อนักลงทุนในตลาดมากเพียงใด
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ของ เจพี มอร์แกน อย่าง Nikolaos Panigirtzoglou ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ครั้งสุดท้ายที่เห็นความเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ในแดนลบ บรรดาผู้ซื้อต่างหวนกลับเข้ามาเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาร่วงหนัก แต่ครั้งนี้สถานการณ์ของบิตคอยน์กลับน่าเป็นห่วง
Panigirtzoglou ประเมินว่า ถ้าบิตคอยน์ยังไม่สามารถดีดตัวกลับมาแตะที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาของบิตคอยน์จะปรับตัวลดลง ก่อนชี้ว่า ราคาของบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในช่วงสัปดาห์ก่อนเป็นผลจากการที่เทรดเดอร์อย่าง Commodity Trading Advisors (CTAs) และกองทุนคริปโตฯ เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังเพื่อสั่งสมบิตคอยน์ฟิวเจอร์สในระยะยาว
ส่วนการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ ราคาล่าสุด ณ เวลา 10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 53,858 ดอลลาร์ ลดลงจากวันก่อนหน้า 4.10% และลดลงจากระดับสูงสุด (64,373) ซึ่งเคยทำไว้เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ราว 16.33%
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- Bloomberg
