ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ (24 มิถุนายน) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า สำหรับขั้นตอนการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันนี้ ตนประเมินว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการลงมติมากกว่าการลงมติร่างกฎหมายในครั้งที่ผ่านๆ มา เพราะการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องลงมติทีละฉบับ รวมทั้งหมด 13 ฉบับ
ดังนั้น กระบวนการที่รัฐสภาได้เตรียมการไว้คือ จะขอให้สมาชิกได้ประหยัดเวลาในการลงมติด้วยการไม่ประกาศชื่อตัวเอง จากนั้นเลขาธิการในที่ประชุมจะประกาศรายชื่อของสมาชิกแต่คนอยู่แล้ว และการลงมติ ขอให้ไม่ต้องใช้คำว่าฉบับหรือร่างที่เท่าใด แต่จะขอให้ใช้ตัวเลขของร่าง 1-13 ว่ารับหลักการ ไม่รับหลักการ หรืองดออกเสียง พร้อมกันนี้ ประธานรัฐสภากล่าวยืนยันว่า ทางรัฐสภาจะพยายามดำเนินการอย่างรอบคอบมากที่สุด โดยไม่ให้เกิดความบกพร่องขึ้น
นอกจากนี้ หากทางเลขาธิการในที่ประชุมได้ขานชื่อไปแล้ว แต่สมาชิกคนนั้นไม่ได้อยู่ในที่ประชุมก็จะไม่มีการย้อนกลับมา จนกว่าการลงมติจะจบ แล้วสมาชิกคนนั้นจึงจะมีสิทธิขอเสนอการลงคะแนนใหม่ แต่ในกรณีที่สมาชิกเกิดความสับสนว่า เลขาธิการในที่ประชุมได้อ่านรายชื่อสมาชิก แล้วพบว่าสมาชิกไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แล้วทางสมาชิกก็ได้ไปลงคะแนนในร่างฯ ฉบับต่อไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้น สมาชิกที่ไม่ได้ลงคะแนนในร่างฯ ฉบับก่อนหน้านั้น ได้กลับเข้ามาในที่ประชุม แล้วขอลงคะแนนใหม่ ก็จะให้ใช้การลงคะแนนภายหลังจากลงคะแนนในทุกร่างฯ ทั้งหมดแล้ว พร้อมกันนี้ ประธานรัฐสภาคาดว่า การประชุมรัฐสภาและลงมติต่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ จะแล้วเสร็จได้ภายในค่ำคืนวันนี้
ด้าน สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวสรุปเวลาอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 13 ฉบับ วาระรับหลักการว่า เมื่อวานนี้ (23 มิถุนายน) ทุกฝ่ายใช้เวลาทั้งสิ้น 11 ชั่วโมง 40 นาที จำแนกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 4 นาที เวลาคงเหลือ 2 ชั่วโมง 55 นาที, พรรคร่วมรัฐบาล ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง 1 นาที คงเหลือเวลา 1 ชั่วโมง 58 นาที และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง 2 นาที คงเหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 57 นาที ขณะที่ประธานใช้เวลาไปเพียง 32 นาที เหลือเวลา อีก 2 ชั่วโมง 27 นาที ส่งผลให้การประชุมในวันนี้คงเหลือเวลาการอภิปรายทั้งสิ้น 7 ชั่วโมง 20 นาที
โดยคาดว่าจะอภิปรายเสร็จสิ้นก่อนเวลา 17.00 น. จากนั้นจะมีการลงมติใช้วิธีขานชื่อเพื่อลงมติแยกเป็นรายมติแต่ละร่างจนครบ 13 ฉบับ เมื่อสมาชิกถูกขานชื่อก็จะไล่เรียงถามมติไปทีละร่าง คาดว่าจะใช้เวลา 6 ชั่วโมง และจะมีกรรมการนับคะแนน โดยผ่านระบบการตรวจสอบ และจะดำเนินการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณากรณีที่มีร่างผ่านความเห็นชอบ
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวกรณีมีกระแสข่าวว่า วันนี้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองเดินทางมาที่อาคารรัฐสภานั้น ทางรัฐสภามีความกังวลหรือไม่ ประธานรัฐสภากล่าวว่า เมื่อวานนี้ (23 มิถุนายน) ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากทางฝ่ายผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยของทางรัฐสภาแล้วว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมมาตรการรับมือการชุมนุมภายนอกอาคารรัฐสภาไว้แล้ว ส่วนภายในอาคารรัฐสภาก็มีการประชุมตามปกติ โดยตนประเมินว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี ซึ่งสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมภายนอกอาคารรัฐสภา ทางรัฐสภาก็พร้อมยินดีต้อนรับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยสงบในการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือไม่ให้มีการทำลายทรัพย์สินของทางรัฐสภา และขอให้เป็นการชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย ขณะเดียวกันคาดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะเข้ามาภายในอาคารรัฐสภาเพื่อสร้างความไม่สงบเรียบร้อยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ประธานรัฐสภากล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานงานจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะมีตัวแทนมายื่นอื่นต่อทางรัฐสภาหรือไม่ แต่หากจะมีการยื่นหนังสือ ทางรัฐสภาก็มีความยินดีรับเรื่อง โดยทางด้านของ สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นผู้ไปรับหนังสือ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
