สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งมีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ลงมติวานนี้ (13 ธันวาคม) ด้วยคะแนนเสียง 221 ต่อ 212 เสียง อนุญาตอย่างเป็นทางการให้มีการไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ แม้จะยังไม่พบหลักฐานการกระทำผิดใดของพรรคเดโมแครต
โดยการไต่สวนถอดถอนดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบว่า ไบเดนได้รับประโยชน์อย่างไม่เหมาะสมจากการติดต่อธุรกิจในต่างประเทศของฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายวัย 53 ปีของเขาหรือไม่
ขณะที่ทำเนียบขาวชี้ว่า การไต่สวนถอดถอนไบเดนนั้นเป็นการกล่าวหาที่พิสูจน์ไม่ได้ และมีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งไบเดนกำลังเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ที่คาดว่าเขาอาจได้ชิงชัยกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลงสมัครในฐานะผู้แทนพรรครีพับลิกันอีกครั้ง ขณะที่ทรัมป์ถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เคยถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้ง
ทั้งนี้ ความพยายามในการไต่สวนถอดถอนไบเดนออกจากตำแหน่งค่อนข้างชัดเจนว่าจะล้มเหลว เนื่องจากต้องมีการลงมติตัดสินในวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาอยู่ที่ 51 ต่อ 49 เสียง
แต่ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอาจช่วยพรรครีพับลิกันในการตอกย้ำข้อกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชันที่มีต่อไบเดนและครอบครัวในระหว่างการหาเสียงปีหน้า
การถอดถอนที่ไร้หลักฐาน
ในการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีการระบุข้อกล่าวหาต่อไบเดนและครอบครัว ว่าได้รับประโยชน์จากท่าทีของไบเดนระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในยุครัฐบาลบารัก โอบามา ช่วงปี 2009-2017 โดยชี้ว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนทางธุรกิจของฮันเตอร์ ไบเดนในยูเครนและจีนในช่วงเวลานั้น
ขณะที่มีการแสดงหลักฐานว่าบุตรชายของไบเดนชักจูงลูกค้าให้เชื่อว่าเขาสามารถเข้าถึงห้องทำงานของรองประธานาธิบดีได้ แต่ไม่มีการแสดงหลักฐานว่าไบเดนได้ดำเนินการอย่างเป็นทางการเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเหล่านั้น หรือรับผลประโยชน์ทางการเงินในทางใดทางหนึ่ง
การลงมติมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่บุตรชายของไบเดนปฏิเสธหมายเรียกของคณะกรรมการไต่สวนของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้เป็นพยานในการไต่สวนแบบปิด โดยยืนยันว่าจะให้การเป็นพยานต่อสาธารณะเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่าคำพูดของเขาจะถูกบิดเบือนความจริง
“ไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่าบิดาของผมมีส่วนเกี่ยวข้องทางการเงินในธุรกิจของผม เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น” ฮันเตอร์ ไบเดน กล่าว
ขณะที่สมาชิกคณะกรรมการไต่สวนตอบโต้ว่าจะดำเนินการจับกุมบุตรชายไบเดนฐานดูหมิ่นรัฐสภา ซึ่งอาจมีโทษถึงจำคุก
นิค ลาโลตา สส. รีพับลิกันจากนิวยอร์กกล่าวว่า “ประเด็นสำคัญของการไต่สวนถอดถอน คือมันไม่ใช่การตัดสินล่วงหน้า
“ชาวนิวยอร์กทั่วไปมักสงสัยว่าคนในครอบครัวของประธานาธิบดีที่ทำเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ในอาชีพที่พวกเขาไม่มีประสบการณ์ ดูเหมือนจะคลุมเครือนิดหน่อย” ลาโลตากล่าว โดยอ้างอิงถึงบทบาทก่อนหน้าของฮันเตอร์ ไบเดน ในตำแหน่งบอร์ดบริหารบริษัทพลังงาน Burisma ของยูเครน
สำหรับตัวเต็งผู้สมัครรีพับลิกันอย่างอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เคยถูกยื่นถอดถอนจากสภาผู้แทนราษฎร 2 ครั้งระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้แก่ ในปี 2020 จากการพยายามกดดันยูเครนให้ประกาศสืบสวนการทุจริตของไบเดน และในปี 2021 จากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้
ขณะที่ฮันเตอร์ ไบเดน นอกจากจะตกเป็นเป้าของการสืบสวนคดีอาญาที่ใช้เวลานานหลายปี ยังเผชิญกับข้อกล่าวหาของรัฐบาลกลางว่าโกหกเรื่องการใช้ยาเสพติดขณะซื้อปืนพก และข้อหาไม่จ่ายภาษี 1.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขายืนยันว่าไม่มีความผิดในข้อหาอาวุธปืน และทนายความของเขายืนยันว่าได้จ่ายภาษีคืนเต็มจำนวนแล้ว
ซึ่งเขายืนยันว่าการนำประเด็นเรื่องการที่เคยติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์ และเคยไร้ความรับผิดชอบต่อการเงินของตัวเขาเอง มาเป็นสาเหตุของการไต่สวนถอดถอนบิดาของเขา โดยปราศจากหลักฐานพิสูจน์นั้นเป็นเรื่องที่ ‘ไร้สาระ’ และ ‘ไร้ยางอาย’
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images
อ้างอิง: