เว็บไซต์ข่าว Times รายงานว่า Volvo ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำสัญชาติสวีเดนได้เริ่มต้นโยกย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของบริษัทในประเทศจีนไปยังประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อหวังหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการของสหภาพยุโรป (EU) ที่เตรียมจะนำมาบังคับใช้เพื่อจัดการแก้ไขความได้เปรียบในการแข่งขันกรณีที่รถยนต์ EV ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน
รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในของบริษัทระบุว่า Volvo กำลังพิจารณาระงับการขายรถยนต์ EV ที่ผลิตในจีน ซึ่งบริษัทนำเข้ามาขายในตลาดภูมิภาคยุโรป หากว่ามาตรการภาษีของ EU มีผลบังคับใช้ เนื่องจากรถยนต์แบรนด์นี้นั้นแม้จะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของสวีเดน แต่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่คือ Geely Automobile บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน
ขณะเดียวกัน รายงานยังระบุว่า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว และทำให้ Volvo ไม่จำเป็นต้องระงับการขาย Volvo ได้ย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Volvo รุ่น EX30 และ EX90 จากจีนไปยังเบลเยียม ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความจำเป็นที่ Volvo ต้องระงับการขายรถยนต์ไฟฟ้าของทางค่ายที่ผลิตในจีนลงได้
นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้า Volvo บางรุ่นที่ต้องส่งออกไปยังอังกฤษ และมีการผลิตในจีนก็มีแผนที่จะย้ายการผลิตไปยังประเทศเบลเยียมเช่นกัน
กระนั้น สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จนถึงขณะนี้ Volvo ยังไม่มีการยืนยันถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ปัจจุบันคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งดูแลนโยบายการค้าในสหภาพยุโรป 27 ประเทศ กำลังพิจารณาเรื่องการบังคับใช้มาตรการเพื่อจัดการกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดที่ผลิตในจีน โดยมีจุดเริ่มต้นจากปีที่แล้วที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้เริ่มทำการสอบสวนว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตในจีนได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกรุงปักกิ่งภายใต้นโยบายอัตราภาษีพิเศษ ซึ่งอาจบิดเบือนกลไกตลาด โดยการสืบสวนดังกล่าวเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมปีที่แล้ว และอาจใช้เวลานานถึง 13 เดือน แต่ในระหว่างนั้น ทางคณะกรรมาธิการยุโรปสามารถกำหนดเงื่อนไขเพื่อต่อต้านมาตรการเงินอุดหนุนชั่วคราวได้ 9 เดือนหลังจากเริ่มการสืบสวนสอบสวน
รายงานระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับจีนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปัจจัยความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ตัดสินใจใช้กำลังรุกรานยูเครน ขณะเดียวกัน ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาด้านความยั่งยืนและเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างแท้จริง สหภาพยุโรปกำลังปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการพยายามลดการพึ่งพาเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition)
ภาพ: Jonathan Weiss / Getty Images
อ้างอิง: