ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ South China Morning Post โดยระบุว่า ยูเครนมองหาโอกาสที่จะได้เจรจากับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนโดยตรง เพื่อขอให้จีนใช้อิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มี โน้มน้าวรัสเซียให้ยุติการสู้รบในยูเครน
“จีนเป็นประเทศที่ทรงอำนาจ และมีเศรษฐกิจที่ทรงพลัง ฉะนั้น จีนจึงมีอิทธิพลต่อรัสเซียทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ จีนยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย” เซเลนสกีกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom “ผมแน่ใจว่าหากไม่มีตลาดจีนมาเกื้อหนุนรัสเซีย รัสเซียก็จะต้องสัมผัสกับความโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
“ผมอยากพูดคุย (กับสีจิ้นผิง) โดยตรง ผมเคยคุยกับเขามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ตั้งแต่รัสเซียส่งทหารบุกเข้ามาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เราได้ขอให้มีการสนทนาอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายเราก็ไม่เคยได้รับโอกาสสนทนาใดๆ กับจีน แม้ผมจะเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์”
แม้เซเลนสกีหวังว่าจีนจะใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปในการแก้ไขความขัดแย้ง แต่จนถึงขณะนี้จีนยังไม่เคยออกมาตำหนิพันธมิตรอย่างรัสเซียเกี่ยวกับการกระทำที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีกล่าวว่า เขายังคงหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและจีนจะได้รับการสนับสนุนและจะพัฒนาต่อไปในอนาคต โดยปัจจุบันจีนและยูเครนได้เจริญสัมพันธไมตรีอย่างเป็นทางการมาแล้วกว่า 30 ปี
ทั้งนี้ เมื่อปี 2021 จีนยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของยูเครน โดยมียอดเงินสะพัดเกือบ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เซเลนสกีกล่าวต่อไปว่า เขาเข้าใจดีว่าจีนต้องการเป็นกลางในสงครามนี้ แต่จีนเองก็ควรตระหนักว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนก่อนโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ เซเลนสกียังระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าจีนและยูเครนยึดถือค่านิยมเดียวกัน เช่น ความรักที่มีต่อครอบครัวและลูกหลาน “ทุกคนรักลูกหลานของตัวเอง ทุกคนต้องการที่จะอยู่อย่างสงบสุข และปรารถนาที่จะมีความมั่นคงในชีวิต
“รัสเซียเป็นผู้รุกราน…นี่คือสงครามในดินแดนของเรา พวกเขาบุกเข้ามาโจมตี จีนในฐานะประเทศที่ใหญ่และทรงอำนาจ สามารถทำให้สหพันธรัฐรัสเซียยอมอ่อนข้อลงได้” เขากล่าว “แน่นอนว่าผมอยากให้จีนทบทวนทัศนคติของตนเองที่มีต่อสหพันธรัฐรัสเซีย”
ภาพ: Hennadii Minchenko/ Ukrinform/Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง: