วันนี้ (27 มิถุนายน) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารมีมติให้อัยการสูงสุดว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องภายใน 15 วัน กรณี ธีรยุทธ สุวรรณเกสร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่นั้น
วิษณุกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสอบถาม เพราะมีคนไปร้องมานานแล้วและยังไม่ทำความเห็นส่งมาเสียที เพราะถ้าไม่ส่ง เอกชนก็จะฟ้องร้องเอง
เมื่อถามว่า ศาลมีทางเลือกที่จะไม่รับคำร้องหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ได้ เป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะศาลไม่มีทางเลือกหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ มี
ส่วนหากอัยการสูงสุดไม่รับคำร้อง ผู้ร้องสามารถใช้ช่องทางตามมาตรา 49 ยื่นตรงให้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ศาลจะรับก็ได้ หรือไม่รับก็ได้
วิษณุเชื่อว่า หากศาลรับคำร้องจะไม่ส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ตัวบุคคล และไม่มีเรื่องของการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ว่าใครจะมีความรู้สึกอย่างไร ขออย่าถามไปล่วงหน้าว่าจะมีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่
เมื่อถามว่า แต่คำร้องให้เขียนว่าแค่ยกเลิกการกระทำ ถือเป็นสารตั้งต้นให้คนมาร้องคดีอาญาหรือคดียุบพรรคกรณีหากศาลตัดสินว่าผิดใช่หรือไม่ วิษณุพยักหน้าและตอบว่า ใช่ และอย่าให้ตนไปแนะนำเลย ส่วนจะร้ายแรงกว่าคดีหุ้น ITV หรือไม่นั้นตนไม่รู้