ผลสำรวจแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study) ซึ่งศึกษาแนวโน้มและพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักเดินทางจำนวน 1.75 หมื่นรายจาก 27 ประเทศทั่วโลก พบว่าผู้คนทั่วโลกเดินทางเพื่อท่องเที่ยวมากขึ้นแต่จำนวนวันในแต่ละทริปกลับสั้นลง ขณะที่นักเดินทางชาวไทยไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย
จากการศึกษาดังกล่าว ค่าเฉลี่ยของจำนวนแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยจะเพิ่มเป็น 3.9 ทริปภายในปี 2562 นี้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแผนการเดินทางท่องเที่ยวของชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งอยู่ที่ 2.8 ต่อปี และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 2.7 ทริปต่อปี
สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้คนจะเน้นไปเที่ยวทริปสั้นๆ แต่เที่ยวบ่อยมากกว่าทริปยาวปัจจุบันจำนวนวันเฉลี่ยต่อการท่องเที่ยวหนึ่งครั้งทั่วโลกอยู่ที่ 8 คืนต่อทริป ลดลงจากค่าเฉลี่ยในปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 10 คืนต่อทริป และค่าเฉลี่ยของปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 9.5 คืนต่อทริป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนท่องเที่ยวเพียง 5 คืนต่อทริปเท่านั้น
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทยเผยตัวเลขจาก สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก หรือ World Travel & Tourism Council (WTTC) ซึ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจโลกทะยานถึง 272 ล้านล้านบาท ในปี 2560 ที่ผ่านมา หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 10.4% ของดัชนีมวลรวมผลิตภัณฑ์ภายในประเทศหรือจีดีพีของทั้งโลก สำหรับประเทศไทย การท่องเที่ยวมีมูลค่าถึง 3.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 21.2% ของจีดีพีประเทศ และคาดมูลค่าการท่องเที่ยวจะขยายตัว 7.4% ในปี 2561 นี้
สำหรับสถิติของจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกเดินทาง 5 อันดับแรกได้แก่ 1. ญี่ปุ่น 2. ฮ่องกง 3. สิงคโปร์ 4. เกาหลีใต้ และ 5. จีน ส่วนพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวพบว่า 83% เลือกใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการวางแผนและนำทางในขณะท่องเที่ยว และเงินสดยังคงเป็นทางเลือกหลักในการใช้จ่าย รองลงมาคือ บัตรเครดิตและเดบิต ดิจิทัลวอลเล็ต และการชำระเงินรูปแบบอื่น ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากสำหรับการขยายสัดส่วนของรูปแบบการชำระเงินใหม่ๆ ในโลกดิจิทัล ที่จะเข้ามาแทนที่เงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิง:
- VISA