วันนี้ (13 กันยายน) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคประชาชน แสดงความคิดเห็นกรณีการแต่งตั้งบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันคณะกรรมการบริหารและเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) อย่างน้อย 136 คน กำลังถูกสอบสวนในคดีฮั้ว สว. โดยอยู่ภายใต้การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรม
ดังนั้น หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ เจ้าปราสาทสายฟ้าแห่งบุรีรัมย์ ต่อให้อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีออกมายืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงการสอบสวนคดีฮั้ว สว. ก็คงยากที่ประชาชนจะเชื่อ ล่าสุดที่มีการปรากฏชื่อ พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ยิ่งทำให้เรื่องนี้ถูกจับตามองมากขึ้น
หาก พล.ต.ท.ชาญชัย ได้ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจริง เชื่อได้เลยว่ากลิ่นปัญหาจะโชยขึ้นกลางวง ครม.อนุทินทันที เนื่องจาก พล.ต.ท.ชาญชัย ถือเป็นตำรวจสายปราสาทสายฟ้า เติบโตและทำงานในจังหวัดบุรีรัมย์มาโดยตลอด เคยเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ปี 2558 และขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ในปี 2562 ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งครอบคลุมหลายจังหวัดในภาคอีสาน รวมถึงบุรีรัมย์
ที่สำคัญ ระหว่างที่เขาเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าของเขาในขณะนั้นก็คือ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ในยุคนั้น ซึ่งปัจจุบันก็คือ สว.สายสีน้ำเงิน หนึ่งใน 136 คนที่กำลังถูกสอบสวนในคดีฮั้ว สว. 2567
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังเคยเป็นหนึ่งใน สว. ที่ร่วมลงชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยกล่าวหาว่า พ.ต.อ.ทวี แทรกแซงการสอบสวนคดีฮั้ว สว. หากมองในมุมเปรียบเทียบแล้ว ถ้า พ.ต.อ.ทวี ถูกเรียกว่าแทรกแซง การดึงคนที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของ สว. ที่ถูกกล่าวหามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็น่าจะเรียกได้ว่าจับมือทำ
นอกจากประเด็น พล.ต.ท.ชาญชัยแล้ว อีกเรื่องที่น่าจับตาคือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ต้องย้ำว่า ครม.อนุทิน 1 นี้มีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น การโยกย้ายข้าราชการแทบไม่มีความจำเป็น หากฝืนทำไป ย่อมถูกมองว่าเป็นการแทรกแซง โดยเฉพาะในประเด็นที่ดินเขากระโดง
วิโรจน์กล่าวว่า ตนเองและเพื่อน สส. พรรคประชาชน จะติดตามตรวจสอบพฤติกรรมและพฤติการณ์ของครม.อนุทินอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบประวัติรัฐมนตรี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผลประโยชน์ ธุรกิจสีเทา หรือการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่
รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผิดปกติ การจัดซื้อจัดจ้าง มติ ครม. มติของบอร์ดสำคัญ การออกระเบียบ คำสั่ง หรือกฎกระทรวงที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง หากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติ เราพร้อมใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อระงับยับยั้งทันที ทั้งการตั้งกระทู้ถามสด การเสนอญัตติด่วน การอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจ ไปจนถึงการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวน
ท้ายที่สุด หวังว่าข่าวการเสนอชื่อ พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเป็นเพียงข่าวลือ ไม่ใช่ความจริงที่จะเกิดขึ้น