วันนี้ (12 สิงหาคม) ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างนักศึกษาและประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงการชุมนุมของประชาชนที่ผ่านมา กังวลว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะบานปลาย โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีข้อสังเกตดังนี้
- มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น มีการทำร้ายผู้ชุมนุมในระหว่างการจับกุม แทนที่จะใช้การควบคุม
- ควบคุมการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักสากล เช่น การแอบอยู่บนที่สูงและยิงกระสุนยางลงมา ใช้แก๊สน้ำตาจากที่สูง เสมือนดักทำร้าย ใช้ปืนจ่อ ถึงแม้จะเป็นกระสุนปลอมก็อาจพลาดพลั้งถึงแก่ชีวิตได้
- ยั่วยุให้กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นนักศึกษาและประชาชนให้บันดาลโทสะ เกิดความโกรธ ความเกลียดชัง และเกิดการปะทะตามมา ซึ่งไม่มีประโยชน์กับการกระทำทั้งสองฝ่าย
- ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมการชุมนุมโดยปฏิบัติตามกฎหมาย และปฏิบัติตามหลักสากลที่นานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วพึงปฏิบัติกับประชาชนอย่างเคร่งครัด เพราะหากพลาดพลั้ง ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมซึ่งได้รับความเสียหายสามารถฟ้องร้องต่อศาลอาญา ซึ่งจะมีปัญหาต่อตัวเองและครอบครัวในอนาคต
ครูมานิตย์กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การชุมนุม เห็นได้ว่าผู้ชุมนุมไม่ได้มีเจตนาที่จะปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่เป็นการทำกิจกรรมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกด้วยเหตุผลเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดผิดพลาด ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส และการเรียกร้องการเปิดโอกาสให้ประเทศได้เป็นประชาธิปไตย
“ในฐานะกรรมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่อยากเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ และปฏิบัติรุนแรงเกินกว่าเหตุกับประชาชนผู้ชุมนุม จึงได้หารือกับกรรมาธิการอีกหลายท่าน โดยเฉพาะ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. พะเยา ที่ปรึกษากรรมาธิการการตำรวจ เพื่อจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย มาร่วมแลกเปลี่ยนหาทางออกร่วมกัน และพูดคุยทำความเข้าใจถึงการควบคุมการชุมนุม การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ สารเคมี และแก๊สน้ำตา ในการปฏิบัติการแต่ละครั้ง รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญคือจะขอให้เปิดเผยคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในการควบคุมการชุมนุมครั้งนี้ด้วย เพราะกรรมาธิการการตำรวจไม่ต้องการเห็นความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับเยาวชนและประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะเป็นลูกหลานของข้าราชการตำรวจ เพียงเพราะความมุทะลุของคนชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียว” ครูมานิตย์กล่าว