VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของเวียดนามเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ 6 ธันวาคม ว่าบริษัทได้ยื่นเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดสหรัฐอเมริกา และมีแผนจะนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ ‘VFS’ โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนไปใช้ขยายโรงงานที่นอร์ทแคโรไลนา ด้วยกำลังการผลิตที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ 150,000 คันต่อปี
สำหรับการเสนอขายหุ้น บริษัทระบุว่าจะดำเนินการจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในประเทศสิงคโปร์ โดยจะใช้ชื่อว่า VinFast Auto Ltd. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดจำนวนหุ้นที่เสนอขายหุ้นและช่วงราคาเสนอขายนั้นยังไม่ได้มีการกำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำความรู้จัก VinFast ค่ายรถยนต์ EV สัญชาติเวียดนามที่กำลังบุกตลาดสหรัฐฯ
- VinFast ผู้ผลิต EV สัญชาติเวียดนาม เตรียมส่งออกรถ 5,000 คัน ไปยังสหรัฐฯ ยุโรป และแคนาดา
- ‘VinFast’ จับมือ ‘Autonomy’ จัดหารถยนต์ไฟฟ้า 2,500 คันป้อนตลาดสหรัฐฯ
แม้ว่าจะไม่มีการระบุกรอบเวลาสำหรับการเสนอขาย แต่บริษัทเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การเสนอขายหุ้น IPO มีกำหนดเริ่มต้นในไตรมาส 4/22
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Vingroup บริษัทแม่ของ VinFast กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าการเสนอขายหุ้น IPO อาจล่าช้าไปถึงปี 2023 เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด
VinFast ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2019 กำลังวางเดิมพันครั้งใหญ่ในตลาดสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์และสตาร์ทอัพรุ่นเก่าด้วยรถ SUV ไฟฟ้าทั้งหมด 2 รุ่น คือ VF8 และ VF9 รวมถึงธุรกิจเช่าซื้อแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้ราคาซื้อรถถูกลง
ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทโฮลดิ้งในสิงคโปร์ของ VinFast ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO กับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ โดยบริษัทปักธงเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยมีรายงานข่าวว่าบริษัทตั้งเป้าหมายการระดมทุนไว้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่าราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรกตาม มูลค่าตลาดโดยรวมสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ EV นั้นไม่ร้อนแรงเหมือนในอดีต หลังจากที่บางบริษัทที่มีได้รับการประเมินมูลค่าไว้ค่อนข้างสูง ต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผนวกกับเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาในปัจจุบัน
“การประเมินมูลค่าหรือขนาดของการเสนอขายหุ้น IPO ของเราจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในบางส่วน” Le Thi Thu Thuy ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VinFast กล่าวในแถลงการณ์
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน บริษัทได้จัดส่งรถยนต์ชุดแรกจำนวน 999 คันไปยังสหรัฐฯ รวมถึงได้บรรลุข้อตกลงระยะเวลา 5 ปีเพื่อพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในเวียดนาม สำหรับป้อนรถยนต์ EV สู่ตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรป
อ้างอิง: