×

หุ้นเวียดนาม: โอกาสและความท้าทายสำคัญในการลงทุน

14.06.2024
  • LOADING...
หุ้นเวียดนาม

ประเทศเวียดนาม หนึ่งในเอเชียที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2023 อยู่ที่ 5.05% ซึ่ง World Bank คาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2024-2025 อยู่ที่ 5.5% และ 6.0% ตามลำดับ ทำให้เห็นว่าปีนี้เวียดนามจะมีการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคเอเชีย โดยเราได้ศึกษาถึงเหตุการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และอัปเดตมุมมองในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 เพื่อให้ทราบถึงโอกาสและความเสี่ยงของการลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดมีดังนี้

 

1. นโยบายกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน (US-China Trade War) อาจเป็นบวกต่อเวียดนาม

 

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2018 แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสงครามการค้านี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทชื่อดังหลายแห่งทั่วโลกอย่าง Apple, Intel, Samsung, Hyundai Motor และ LG เนื่องจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ จำนวนมาก และการประกาศขึ้นภาษีล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 พบว่าชิปคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์มีการขึ้นภาษี ส่วนยานพาหนะไฟฟ้าภาษีสูงกว่าเดิมถึง 4 เท่า ในขณะที่เวียดนาม (อ้างอิงจากสถิติปี 2023) มีการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 31.33% ของการส่งออกทั้งหมด 

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2024 กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้มีการพิจารณาอนุมัติการอัปเกรดเวียดนามเป็น ‘Market Economy’ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และหากได้รับการอนุมัติจะส่งผลเชิงบวกต่อการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากภาษีจะถูกปรับลดลง อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี AI ทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างปี 2010 และ 2023 พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของการส่งออกมากกว่า 50% ซึ่งเรามองว่าจะเป็นการเปิดทางให้การส่งออกของเวียดนามเพิ่มขึ้นระลอกใหม่ในอนาค

 

2. การยกระดับตลาดหุ้นจากตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) สู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)

 

ปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามถูกจัดอยู่ในกลุ่มตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) โดยยังไม่สามารถเข้าสู่เกณฑ์ของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ตามมาตรฐานของ FTSE Russell และ Morgan Stanley Capital International (MSCI) เนื่องจากปัญหาในด้านระบบการเงิน สภาพคล่อง ความโปร่งใส และการเข้าถึงของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ล่าสุด การทดลองใช้ระบบ KRX Trading System ของตลาดหุ้นเวียดนามถูกเลื่อนออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น

 

อย่างไรก็ตาม เรามองว่าในระยะยาว ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มที่จะได้รับการยกระดับเป็น Emerging Market ตามเกณฑ์ของ FTSE ภายในปี 2025 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่หุ้นในกลุ่มดัชนี VN30 อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ J.P. Morgan ในรายงาน ‘Vietnam Equity Strategy: Catching a Rising Star’ วันที่ 21 มีนาคม 2024 คาดว่าจะมีเงินทุนจากกองทุน Passive Funds ไหลเข้าตลาดหุ้นเวียดนามประมาณ 523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้รัฐบาลเวียดนามมีความกระตือรือร้นในการปฏิรูปกฎหมายเพื่อสนับสนุนการยกระดับตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการประเมินโดย MSCI ทีมงานเห็นว่าการยกระดับตลาดหุ้นเวียดนามเป็น Emerging Market โดย MSCI อาจเป็นเรื่องยากในเร็วๆ นี้ เนื่องจากยังมีปัญหาในด้านสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์สูงสุดของนักลงทุนต่างประเทศ (Foreign Ownership Limit), เงื่อนไขการวางเงินเพื่อทำธุรกรรม (Pre-Funding Requirements), การเปิดเสรีตลาดอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการให้สิทธิและการเข้าถึงข้อมูลของนักลงทุนต่างชาติ

 

ทั้งนี้ หากตลาดหุ้นเวียดนามได้รับการยกระดับเป็น Emerging Market โดย MSCI จะทำให้มีเงินทุนจากกองทุนตามดัชนีไหลเข้ามาประมาณ 971 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นเวียดนามในอนาคตต่อไป

 

ในมุมมองความเสี่ยงของการลงทุนในเวียดนาม เราจับตาความเสี่ยงสำคัญสำหรับการลงทุนในตลาดเวียดนามดังนี้

 

1. ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามในไตรมาส 1 ปี 2024: แนวโน้มและความท้าทาย

 

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 1Q24 ค่อนข้างซบเซา โดย Primary Condo Transactions ทั้งในฮานอยและโฮจิมินห์ยังคงอ่อนตัว ขณะที่ New Supply ส่วนใหญ่เป็น Mid-to-High End ซึ่งไม่สอดคล้องต่อ Real Demand ในกลุ่ม Mid-to-Low อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อบ้านทยอยปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากการทยอยฟื้นตัวของราคาอสังหาในตลาดรอง โดยเฉพาะในฮานอย เรามองว่าภาคอสังหาของเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการปฏิรูปกฎหมายที่อยู่อาศัย ซึ่งกฎหมายที่อยู่อาศัยและกฎหมายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฉบับแก้ไขในเดือนพฤศจิกายน 2023 ได้ผ่านรัฐสภา และคาดว่าจะมีการบังคับใช้อย่างเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2024 จากกำหนดการเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในต้นเดือนมกราคม 2025 ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาทางกฎหมายและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคอสังหา รวมถึงสนับสนุนความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวม ทำให้ภาพรวมของการพัฒนาโครงการอสังหามีความโปร่งใสยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังมีการสนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม เรามองว่าตลาดอสังหาจะฟื้นตัวเฉพาะกลุ่มระดับกลาง ซึ่งดึงดูดกำลังซื้อที่แท้จริง (Real Demand) ของผู้บริโภค ขณะที่มีปริมาณอุปทานในตลาดจำกัด ส่วนอสังหาริมทรัพย์หรูหรา (Luxury) จะยังคงฟื้นตัวยาก โดยสินค้ารอขาย (Inventory) ในภาคอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นอสังหาระดับบน (High End) และระดับกลาง (Mid End) ขณะที่ปริมาณอสังหาใหม่ในปีนี้ยังคงนำโดยกลุ่มอสังหาระดับบน (High End)

 

2. ความไม่แน่นอนทางการเมือง 

 

เวียดนามเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา เมื่อ 2 ตำแหน่งของผู้นำระดับสูงจาก 4 ตำแหน่งลาออกอย่างกะทันหัน ทั้งประธานาธิบดีหวอ วัน เถือง ที่ลาออกก่อนครบวาระ และตามมาด้วย เวือง ดิ่งห์ เหวะ ประธานสภาแห่งชาติ ท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง จนกระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 2024 รัฐบาลเวียดนามดำเนินการแต่งตั้ง พล.ต.อ. โต เลิม รัฐมนตรีกระทรวงตำรวจ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ และ เจิ่น ทัญ หมัน เป็นประธานสภาแห่งชาติคนใหม่ ช่วยคลี่คลายความกังวลด้านเสถียรภาพทางการเมือง 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เหงียน ฟู้ จ่อง ที่มีอายุมากและมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจของเวียดนามในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งนี้ เรายังคงติดตามความคืบหน้าทางการเมืองของเวียดนามอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นเวียดนามในระยะสั้น

 

โดยสรุป เนื่องจากตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มนักลงทุนรายย่อย จึงทำให้เมื่อมีปัจจัยข้างต้นมากระทบจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนได้ ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และสามารถทยอยเข้าลงทุนเมื่อตลาดย่อตัว

 

ภาพ: mirsad sarajlic / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X