เวียดนามเตรียมปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยลดจำนวนกระทรวงและหน่วยงานรัฐ พร้อมปลดข้าราชการกว่า 1 แสนคน มุ่งกำจัดระบบราชการที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในภูมิภาค
Nguyen Hoa Binh รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวอย่างเด็ดขาดในการประชุมกระทรวงมหาดไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า “เราต้องไม่ปล่อยให้หน่วยงานรัฐกลายเป็นที่หลบภัยของคนขี้เกียจ” พร้อมย้ำว่ารัฐบาลควรหลีกเลี่ยงการรักษาเจ้าหน้าที่ที่ไร้ความสามารถไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิรูประบบราชการอย่างจริงจัง
To Lam เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สั่งการให้สภาแห่งชาติตัดสินใจเรื่องการปรับโครงสร้างภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยตั้งเป้าจะปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ Lam วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซ้ำๆ ในเรื่องความไร้ประสิทธิภาพและความสิ้นเปลือง โดยระบุว่าการสูญเสียเวลาและเงินเลวร้ายยิ่งกว่าการคอร์รัปชัน
การปรับลดจะครอบคลุมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์ รัฐบาลกลาง สภาแห่งชาติ และกระทรวงระดับภูมิภาค โดยมุ่งเป้าไปที่ 5 กระทรวง คิดเป็นประมาณ 20% ของทั้งหมด
โดยกระทรวงแผนการและการลงทุนซึ่งดูแลการลงทุนจากต่างประเทศจะควบรวมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมจะควบรวมกับกระทรวงก่อสร้าง และกระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และสวัสดิการสังคม จะผนวกกับกระทรวงมหาดไทย ส่วนหน้าที่ด้านการศึกษาวิชาชีพจะโอนไปยังกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม
การปฏิรูปยังรวมถึงการปรับโครงสร้างในระดับจังหวัดทั้ง 63 แห่งของเวียดนาม และการยุบรวมสถานีโทรทัศน์ของรัฐหลายแห่ง โดยให้ Vietnam Television ซึ่งเป็นผู้แพร่ภาพรายใหญ่ที่สุดเป็นผู้ดูแล ซึ่งอาจส่งผลให้พนักงานในอุตสาหกรรมสื่อหลายพันคนต้องตกงาน
ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการบริหารทุนรัฐวิสาหกิจซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 19 แห่งจะถูกยุบ โดยการกำกับดูแลกิจการสำคัญอย่าง Petrovietnam, Vietnam Electricity และ Vietnam Airlines จะโอนไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
การปฏิรูปครั้งนี้มีที่มาจากวิสัยทัศน์ของเวียดนามที่ต้องการก้าวสู่การเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 แม้ว่า GDP จะเติบโตอย่างรวดเร็วที่ 7.09% ในปีที่ผ่านมา แต่เวียดนามยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะการถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการคอร์รัปชันและช่องว่างด้านบุคลากรที่มีความสามารถ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเงินเดือนข้าราชการที่ต่ำ
Bich Tran นักวิจัยหลังปริญญาเอกจาก Lee Kuan Yew School of Public Policy ในสิงคโปร์ มองว่าการลดจำนวนบุคลากรจะเป็นโอกาสให้รัฐบาลสามารถเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการที่เหลือ ซึ่งจะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ได้
นักลงทุนต่างชาติให้การสนับสนุนการปฏิรูปครั้งนี้ เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในระบบราชการเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการลงทุน บางกรณีถึงขั้นต้องทบทวนแผนหรือยกเลิกการลงทุน การควบรวมกระทรวงการลงทุนและการคลังจึงถูกคาดหวังว่าจะช่วยให้กระบวนการต่างๆ ราบรื่นขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าการปฏิรูปที่รวดเร็วและรุนแรงเช่นนี้อาจสร้างความสับสนวุ่นวายในระยะสั้น
แหล่งข่าวจากบริษัทญี่ปุ่นรายหนึ่งระบุว่า “มันอาจนำไปสู่การหยุดชะงักและความล่าช้าในงานเอกสารในช่วงเวลาหนึ่ง” แต่หากดำเนินการสำเร็จ การปฏิรูปครั้งนี้อาจเป็นโมเดลให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ
ภาพ: REC Stock Footage / Shutterstock
อ้างอิง: