×

รัฐบาลจัดพิธีเลี้ยงฉลองชัย มอบเงินรางวัลกว่า 344 ล้านบาท แก่นักกีฬาทีมชาติไทย

โดย THE STANDARD TEAM
12.11.2025
  • LOADING...
รัฐบาลจัดพิธีเลี้ยงฉลองชัย มอบเงินรางวัล กว่า 344 ล้านบาท แก่นักกีฬา ทีมชาติไทย

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลจัดพิธีเลี้ยงฉลองชัยและมอบเงินรางวัลเชิดชูเกียรติแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา คณะเจ้าหน้าที่ และบุคลากรกีฬาทีมชาติไทย รวมมูลค่ากว่า 344,085,000 บาท

 

โดยมี อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,
คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ผู้บริหารสมาคมกีฬา และสื่อมวลชนร่วมในงานอย่างคับคั่ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฮไลต์ของงานอยู่ที่การกดโอนเงินแบบเรียลไทม์ เพื่อให้นักกีฬาได้รับเงินรางวัลเข้าบัญชีทันทีภายในพิธี สร้างรอยยิ้มและเสียงปรบมือให้กับบรรดานักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศตลอดปีที่ผ่านมา

 

อรรถกรกล่าวในพิธีว่า “ยินดีที่ได้มาร่วมงานแห่งความสุขของพวกเรา ถ้าโทรศัพท์ใครเงินยังไม่เข้า มาทวงได้เลย เพราะผู้จัดการกองทุนอยู่ตรงนี้”

 

พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเต็มที่ เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่มอบให้ คือการตอบแทนแรงกาย แรงใจ และน้ำพักน้ำแรงของนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในเวทีโลก

 

“ยิ่งเรามอบเยอะ นักกีฬาก็ยิ่งมีกำลังใจไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมากขึ้น วันนี้ผมไม่เครียดเลย เพราะได้มาเจอทุกคน และนี่คือสิ่งที่ทุกคนสมควรได้รับจากความทุ่มเทของตัวเอง” รัฐมนตรีกล่าวเสริม

 

สำหรับพิธีในครั้งนี้ครอบคลุมเงินรางวัลจากการแข่งขันระดับนานาชาติ 4 รายการใหญ่ ได้แก่

  • เวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 12 ที่เฉิงตู ประเทศจีน รวม 43.92 ล้านบาท
  • มหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 32 ที่ไรน์-รูห์ร ประเทศเยอรมนี รวม 8.1 ล้านบาท
  • เอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่มานามา ประเทศบาห์เรน รวม 14.82 ล้านบาท
  • World Transplant Games 2025 ที่เดรสเดน ประเทศเยอรมนี รวม 3.42 ล้านบาท

 

รวมถึงเงินรางวัลจาก การแข่งขันระดับโลกและเอเชียอื่นๆ รวมมูลค่า กว่า 273 ล้านบาท

 

โดยมีสมาคมกีฬากว่า 30 สมาคม ได้รับการสนับสนุน อาทิ สมาคมกีฬาเรือพายฯ, สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ, สมาคมตะกร้อฯ, สมาคมเทควันโดฯ, และสมาคมแบดมินตันฯ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising