เมื่อพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่ ภาพที่หลายคนคิดคงหนีไม่พ้นชายหนุ่มฐานะร่ำรวยที่มีความสามารถพิเศษ เต็มไปด้วยอุดมการณ์ในการช่วยโลกให้รอดพ้นภัยพิบัติ หรือช่วยชีวิตคนให้พ้นการรุกรานจากต้วร้ายที่หมายจะทำลายโลกให้พินาศ แน่นอนว่าต้องมีสัญลักษณ์การเป็นคนดีอย่างหนีไม่พ้น
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่มีอะไรใกล้เคียงกับซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Venom ทั้งภาพลักษณ์ที่เห็นแวบแรกก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดี ตัวดำเลื่อมลื่น ลิ้นแดงเมือก ฟันซี่คมกริบถี่ยิบแบบอสรพิษ แถมถ้าใครเคยดู Spider-Man 3 ก็คงรู้ว่า Venom คือตัวร้ายคนสำคัญที่เป็นคู่ปรับของสไปเดอร์แมนแบบสู้กันเอาตายไปข้าง ดูอย่างไร Venom ก็ไม่น่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไปได้
แต่ทุกอย่างในโลกนี้มักมี 2 ด้านเสมอ Venom ที่ถูกแปะป้ายว่าเป็นตัวร้าย ได้มีภาพยนตร์ภาคแยกของตัวเองกลับได้สร้างความเข้าใจว่าในความเป็นตัวร้าย ก็ยังมีอีกด้านที่ซ่อนอยู่ และฮีโร่ผู้เป็นเครื่องหมายของความดี ก็ไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมเสมอไป
Venom เล่าเรื่องของนักข่าวชื่อเอ็ดดี้ บร็อก (ทอม ฮาร์ดี้) ที่เข้าไปพัวพันกับองค์กร Life Foundation เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เอ็ดดี้ค้นหาความจริงด้วยการสัมภาษณ์ คาร์ลตัน เดรก (ริซ อาห์เหม็ด) ผู้บริหารองค์กร แต่สุดท้ายชีวิตของเอ็ดดี้ก็พลิกผันเพราะถูกสั่งให้ออกจากงาน แถมเลิกลากับ แอน เวย์อิง (มิเชลล์ วิลเลียมส์) เอ็ดดี้พยายามประคองชีวิตลูสเซอร์ของตัวเองด้วยการหางานทำ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ จนในที่สุดเขาได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์กร Life Foundation อีกครั้ง ซึ่งการเข้าไปครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล
ในหนัง นอกจากพล็อตจะได้สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับ Venom แล้ว เรายังรู้สึกเลิกอยากจะแปะป้ายความเป็นตัวร้ายให้ตัวละครใดตัวละครหนึ่ง เพราะเมื่อปรสิตต่างดาวได้เคลื่อนไหลเข้าสู่ร่างสิ่งมีชีวิต มันกลับได้ปรับตัวและเรียนรู้ความเป็นมนุษย์จนได้แสดงสำนึกด้านดีออกมา Venom ที่เคยเป็นตัวร้ายมาตลอดจึงกลายเป็นฮีโร่คนหนึ่ง ที่สามารถช่วยโลกได้เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่มีคุณสมบัติใดๆ ใกล้เคียงฮีโร่ในขนบเลยก็ตาม
เราจึงได้เห็นซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ทั้งในภาพของมนุษย์พังๆ แฟนทิ้ง ตกงาน และไม่มีอะไรประสบความสำเร็จ แถมเมื่อกลายร่างเป็นฮีโร่ก็ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ไม่ได้ผดุงความยุติธรรมไว้ชีวิตคน แต่กลับปะฉะดะกับทุกสิ่งที่ขวางหน้าอย่างไม่ประนีประนอม คล้ายกับหนังได้ตั้งคำถามกับเราว่าแท้จริงแล้วความดีที่ถูกคนเชื่อมันอาจไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ที่คุ้นเคย หรือแม้แต่ความอัปลักษณ์ที่หลายคนหวาดกลัว มันอาจมีความดีซ่อนอยู่ก็ได้
หากมองด้วยสายตาของคนดูหนังอย่างไม่มีแบ็กกราวด์ความสัมพันธ์กับซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ ในจักรวาลมาร์เวล และไม่ได้อ้างอิงกับคำวิจารณ์เท่าไรนัก ต้องยอมรับว่า Venom เป็นหนังที่ดูเอาสนุกเรื่องหนึ่ง เพราะนอกจากจะเห็นฮีโร่ที่เรื้อนไม่เหมือนใครแล้ว ความคาดหวังต่างๆ จากการดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ก็ถูกตอบโจทย์ทั้งหมด เช่น ฉากต่อสู้ที่ดุเดือด ระหว่างฝ่ายดีกับฝ่ายร้าย ฉากไล่ล่าที่พอลุ้นจนตัวโก่ง มุกตลกที่เผลอหัวเราะออกมาดังๆ แบบไม่ได้คาดคิดว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่จะทำกัน แถมบรรยากาศทั้งหมดของหนังยัง ‘แมนๆ’ ดิบเถื่อนโดยไม่แคร์ภาพผู้พิทักษ์โลกแต่อย่างใด
หลังจากดู Venom จบแล้วนั้น ตัวหนังได้ฝากแง่คิดที่ชัดเจนไว้ เกี่ยวกับการตั้งคำถามให้ความดีและความชั่วร้าย ที่เป็นนามธรรมและจับต้องได้ยาก ในฐานะมนุษย์ปุถุชนที่ไม่ได้มีแต่ด้านสวยงาม หลายครั้งที่เรามักเผลอแสดงดาร์กไซด์ออกมา แล้วคุณจะตั้งคำถามให้กับตัวเราว่า สรุปแล้วอะไรคือความดี และความชั่วร้ายกันแน่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
