ศาลในประเทศสิงคโปร์อนุญาตให้ Vauld แพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตที่มีปัญหาสภาพคล่องได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหนี้เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากที่ Vauld ได้ประกาศระงับการถอน ซื้อขาย และฝากเงินบนแพลตฟอร์มเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
Vauld ยื่นขอพักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือน แต่ถูกศาลปฏิเสธ
ข้อมูลจาก Bloomberg เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นขอคำร้องต่อศาลในการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน แต่ถูกปฏิเสธเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม โดยผู้พิพากษาอ้างว่าการเลื่อนชำระหนี้ที่ยาวนาน จะทำให้บริษัทไม่ได้รับการกำกับดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด
Defi Payments Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Vauld กล่าวว่าการเลื่อนการชำระหนี้ครั้งนี้จะทำให้บริษัทได้พักหายใจ โดยมีความจำเป็นสำหรับการจัดทำแผนปรับโครงสร้างใหม่
จากการพิจารณาของศาลเมื่อวันจันทร์ (2 สิงหาคม) Aedit Abdullah ผู้พิพากษาได้อนุญาตให้บริษัท Defi Payments Ltd. เลื่อนการชำระหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน ในช่วงเวลานี้ เจ้าหนี้ของบริษัทจำนวน 147,000 รายจะถูกระงับการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท
แม้ว่าการเลื่อนชำระหนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน แต่ก็อาจมีการเลื่อนชำระต่อไปอีกได้ หาก Vauld มีความโปร่งใสเกี่ยวกับความคืบหน้าในการชำระหนี้คืนเจ้าหนี้
แพลตฟอร์มปล่อยกู้ Vauld เป็นอีกบริษัทที่เจอกับวิกฤตสภาพคล่อง
Vauld เป็นแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตที่มีปัญหาสภาพคล่อง เช่นเดียวกับ Celsius, Voyager Digital, Three Arrows Capital (3AC) และ Babel Finance
วิกฤตสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับหลายบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโต เริ่มต้นมาจากการร่วงลงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนับตั้งแต่ต้นปี และการล่มสลายของเครือข่าย Terra ที่ทำให้เหรียญ LUNA-UST ดิ่งลงจนแทบไร้มูลค่า ทำให้บริษัทที่มีการถือครองในเหรียญเหล่านี้ขาดทุนหนัก จนไม่สามารถหาเงินมาวางหลักประกันได้ และเกิดการผิดชำระหนี้ตามมา
เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Vauld ได้ระงับการถอน ซื้อขาย และฝากเงินทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม หลังจากที่ลูกค้าแห่ถอนเงินกันมากกว่า 8 แสนราย คิดเป็นจำนวนเงินเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ นอกจากนี้บริษัทยังประกาศเลิกจ้างพนักงานถึ 30% อีกด้วย
หลังจากที่ได้รับการคุ้มครองให้เลื่อนการชำระหนี้จากศาลแล้ว Vauld จะต้องจัดทำข้อเสนอการปรับโครงสร้าง และทางเลือกต่างๆ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจต่อไป รวมถึงแผนการชำระคืนที่จะให้บริการแก่เจ้าหนี้
นอกจากนี้ Darshan Bathija ผู้ร่วมก่อตั้ง Vauld ยังประกาศบน Twitter เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมว่า Nexo แพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตอาจเข้าซื้อกิจการ Vauld และทรัพย์สินของบริษัท อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงอยู่ในระหว่างการพิจารณา และอาจมีการเปลี่ยนแปลได้
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP