สำนักวาติกันเผยแพร่แถลงการณ์ ระบุสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา เนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจล้มเหลว โดยพระองค์สิ้นพระชนม์ช่วงเช้าวานนี้ (21 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น
แถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับการลงนามรับรองโดย อันเดรีย อาร์คานเจลี ผู้อำนวยการสำนักงานสุขภาพและสุขอนามัยของนครรัฐวาติกัน ระบุว่า การสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปายังเป็นผลกระทบจากพระอาการประชวรด้วยโรคอื่นๆ รวมถึงภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ ตลอดจนโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานชนิดที่ 2
ทั้งนี้ พระสันตะปาปาทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม เป็นเวลากว่า 5 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรง และต่อมาแพทย์วินิจฉัยว่า พระองค์ติดเชื้อจากแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งลุกลามไปสู่ปอดทั้งสองข้าง
ตลอดช่วงการรักษา พระองค์มีช่วงที่อาการประชวรเข้าขั้นวิกฤต 2 ครั้ง และแพทย์เคยพิจารณาที่จะหยุดการรักษา แต่หลังจากรักษาโรคปอดอักเสบแล้วและอาการทรงตัว ทีมแพทย์ได้อนุญาตให้พระองค์เสด็จออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ก่อนจะกลับไปพักฟื้นต่อ ณ ที่ประทับ Casa Santa Marta ในวาติกัน
ฝังพระศพนอกวาติกัน
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงยืนยันในคำสั่งเสียสุดท้ายของพระองค์ ซึ่งเพิ่งได้รับการเผยแพร่โดยวาติกัน ว่า พระองค์ประสงค์จะฝังพระศพในมหาวิหารเซนต์แมรีเมเจอร์ ในกรุงโรม โดยไม่ต้องมีการประดับประดาใดๆ เป็นพิเศษ
โดยที่ผ่านมาพระสันตะปาปาหลายพระองค์ได้รับการฝังพระศพที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในวาติกัน
ขณะที่พระสันตะปาปาฟรานซิส ยังทรงขอให้สถานที่ฝังพระศพของพระองค์ มีการจารึกพระนามพระสันตะปาปาของพระองค์เป็นภาษาละตินว่า ‘Franciscus’
อย่างไรก็ตาม วาติกันยังไม่เผยแพร่กำหนดวันจัดพิธีพระศพของพระสันตะปาปา แต่ตามปกติแล้วจะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันศุกร์และวันอาทิตย์ โดยกลุ่มพระคาร์ดินัลจะมีการประชุมกันในวันนี้ (22 เมษายน) เพื่อหารือแผนจัดพิธีพระศพ
ส่วนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จะมีขึ้นในช่วง 15-20 วันหลังการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน
ภาพ: Mario Anzuoni / Reuters
อ้างอิง: