ครม. เห็นชอบมาตรการบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ยกเว้น VAT สำหรับการโอนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลผ่าน Exchange ที่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 – 31 ธันวาคม 2566
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 มีนาคม) เห็นชอบในหลักการมาตรการบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามที่กรมสรรพากรเสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ซึ่งจะเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโตหรือโทเคนดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต (Exchange) และการโอนสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รวมทั้งอนุญาตให้หักผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลใน Exchange ออกจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลใน Exchange ในการคำนวณภาษีได้
อาคมกล่าวว่า ประเด็นนี้จะทำให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนในประเทศไทยเกิดขึ้นใน Exchange ของประเทศไทย ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และทำให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินในอนาคตที่พร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล
ด้าน เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่…) พ.ศ…. จำนวน 2 ฉบับ คือ
- ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 – 31 ธันวาคม 2566
- ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (Retail CBDC) ตามโครงการพัฒนาและทดสอบการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับการใช้งานภาคประชาชน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 – 31 ธันวาคม 2566
รวมทั้งร่างกฎกระทรวง ฉบับที่… (พ.ศ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล เฉพาะที่ตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน เป็นจำนวนเท่ากับผลขาดทุนจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลที่เกิดขึ้นในปีภาษีเดียวกัน
ทั้งนี้ เฉพาะผลประโยชน์และผลขาดทุนจากการโอนคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลใน Exchange ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ (14 พฤษภาคม 2561) เป็นต้นไป
“การบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะช่วยให้ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและได้รับความเป็นธรรมในการเสียภาษีมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนที่เกิดขึ้นใน Exchange ของประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการใช้เงินดิจิทัลในอนาคตต่อไป” เอกนิติกล่าว