หากยกภาพยนตร์สักเรื่องที่เต็มไปด้วยวลีอมตะทางการเมือง หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น V for Vendetta หรือ เพชฌฆาตหน้ากากพญายม ที่ตีแผ่เรื่องราวของผู้มีอำนาจฝ่ายอนุรักษนิยม และการครอบงำสื่อได้อย่างเจ็บแสบชนิดที่เรียกได้ว่าหลายคนยกให้เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวทางการเมือง และความหวังในการลุกฮือต่อต้านกับความอยุติธรรมได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่พวกเขาเคยดูมา
วันนี้เราจึงถือโอกาสรวบรวมคำพูดและประโยคสุดฮิตที่กลายเป็นภาพสะท้อนสังคมการเมือง และการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่มาจากเสียงของประชาชนอีกครั้ง
1.
Evey ที่ได้เจอและมีโอกาสพูดคุยกับ V ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ช่วยชีวิตเธอไว้จากการถูกข่มขืนโดยพวกฟิงเกอร์เมน หญิงสาวยังคงได้พบเจอกับชายหนุ่มภายใต้หน้ากากบนเส้นทางของการเรียกร้องอิสรภาพให้กับประชาชนจากรัฐบาลเผด็จการ ที่เคยให้สัญญาว่าสักวันหนึ่งประเทศนี้จะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
“พ่อของฉันเคยเป็นนักเขียน คุณคงชอบเขาเป็นอย่างมาก เขาเคยพูดว่าศิลปินใช้การโกหกเพื่อพูดความจริง ในขณะที่นักการเมืองใช้การโกหกเพื่อปกปิดความจริง”
2.
V แนะนำตัวเองกับ Evey ว่าเขาเป็น ‘เสียงแห่งประชาชน’ ที่เกือบจะจางหายไปจากสังคมและใจของผู้คน เป้าหมายสูงสุดของชายหนุ่มภายใต้หน้ากากคือ การสร้างเสียงแห่งประชาชนให้กลับมาอีกครั้ง
“ผู้คนไม่ควรกลัวรัฐบาลของพวกเขา รัฐบาลต่างหากที่ควรจะกลัวประชาชนของพวกเขา”
3.
V ที่กำลังพูดคุยกับ Evey บนดาดฟ้าตึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ว่าเหตุใดความเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นถึงกำลังจะถูกลบเลือนไปจากใจของผู้คนในประเทศนี้ เขาเชื่อว่าความยุติธรรมและเสรีภาพเป็นสิ่งที่มีค่ามากยิ่งกว่าคำพูดใดๆ หากคุณแสวงหาสิ่งเดียวกัน ผมขอให้คุณยืนเคียงข้างผม
“จำไว้ 5 พฤศจิกายน วันที่ดินปืนทรยศและกบฏต่อพวกเรา ผมไม่รู้ว่าทำไมดินปืนและการทรยศเหล่านั้นถึงสมควรถูกลืม”
4.
การเดินทางของ Evey และ V ได้มาถึงช่วงสุดท้าย พวกเขามีประชาชนที่เรียกร้องหาอิสรภาพให้กับตัวเองมากพอ หรืออาจจะมากกว่าอำนาจที่รัฐบาลมี สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมาเยือนพวกเขาทุกคนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
“อวสานใกล้กว่าที่คุณคิด และมันถูกเขียนลงไปแล้ว สิ่งที่เรามีให้เลือกคือเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้น”
5.
Gordon Deitrich พิธีกรรายการตลกช่อง BTN เขาจัดโชว์ตลกที่ท้าทายอำนาจของเผด็จการโดยการล้อเลียน Adam Sutler (ตัวปลอม) ว่าจะมาในรายการของเขาด้วยท่าทางตลกยียวน ใกล้ๆ นั้นเอง V (ตัวปลอม) ที่กำลังแอบผูกเชือกรองเท้าอยู่ได้หันไปสบตากับผู้นำจอมเผด็จการ Sutler ที่เห็นอย่างนั้นจึงสั่งให้ทหารตามจับชายหนุ่มภายใต้หน้ากากทันที ทุกอย่างวุ่นวาย ผู้ชมต่างส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน V ถูกจับและกระชากหน้ากากออก กลับกลายเป็นว่าภายใต้หน้ากากนั้นคือตัวของ Sutler เอง
“คุณสวมหน้ากากมานานเกินไป จนบางทีคุณอาจลืมไปแล้วว่าคุณเป็นใคร”
6.
หลังจากต่อสู้เรียกร้องอิสรภาพ V เสียชีวิตลงจากเหตุการณ์จลาจลระหว่างประชาชนและรัฐบาล ค่ำคืนนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ Evey หญิงสาวที่ล่มหัวจมท้ายกับ V ในการล้มล้างรัฐบาลเผด็จการได้มองย้อนกลับมายังเหตุการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในประเทศนี้ไปตลอดกาล
“ไม่มีใครลืมค่ำคืนนั้น และความหมายของมันที่มีต่อประเทศนี้ แต่ฉันจะไม่มีวันลืมชายคนนั้น และความหมายของเขาที่มีต่อฉัน”