×

ชาวอเมริกันทั่วประเทศเดินหน้าประท้วงต่อต้านการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชีย

โดย THE STANDARD TEAM
22.03.2021
  • LOADING...
ชาวอเมริกันทั่วประเทศเดินหน้าประท้วงต่อต้านการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชีย

ประชาชนในหลายเมืองของสหรัฐฯ ออกมาร่วมชุมนุมและเดินขบวนประท้วง เพื่อต่อต้านการก่ออาชญากรรมและความรุนแรงจากความเกลียดชังชาวเอเชียและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุมือปืนบุกยิงสปา 3 แห่งในพื้นที่เมืองแอตแลนตาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีหญิงเอเชีย 6 คน ตกเป็นเหยื่อสังหาร โดยเหตุเกิดท่ามกลางกระแสเกลียดชังเอเชียที่เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมประท้วง ซึ่งหลายคนที่เป็นชาวเอเชียหรือเอเชีย-อเมริกัน ต่างชูป้ายเขียนข้อความว่า พวกเราไม่ใช่ไวรัส, พวกเราเป็นมนุษย์ และหยุดความรุนแรง พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจที่คนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ถูกทำร้าย 

 

ผู้ประท้วงเชื้อสายเอเชียบางคนขึ้นปราศรัยต่อหน้าฝูงชนเป็นภาษาอังกฤษและจีนกวางตุ้ง เรียกร้องความปลอดภัยและความเสมอภาคแก่ชาวเอเชีย พร้อมขอให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯ มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเคารพต่อเหยื่อของการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง 

 

“จะมีคนสายเลือดแบบเราอีกมากแค่ไหนที่ต้องตาเขียว หน้าบวม กระดูกหัก มันต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะมีคนมองเห็นหรือ?” แอชลีน โซ เด็กหญิงเชื้อสายเอเชียวัย 13 ปี หนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมตั้งคำถาม

 

นอกจากนี้หลายเมืองใหญ่ทั้งแอตแลนตา, อัลฮัมบรา, วอชิงตัน ดี.ซี., นิวยอร์ก, โคลัมบัส และชิคาโก มีประชาชนนับพันคนเข้าร่วมการเดินขบวนประท้วง และมีการจัดกิจกรรมจุดเทียนแสดงความไว้อาลัยต่อเหยื่อจากเหตุบุกยิงสปาที่แอตแลนตา

 

ส่วนในต่างประเทศ ที่เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ของแคนาดา วานนี้ (21 มีนาคม) ก็มีประชาชนหลายพันคนเข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติและการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง พร้อมประณามกระแสการเหยียดชาวเอเชียที่เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 

 

ซึ่งทางการทองถิ่นเปิดเผยว่า กรณีการก่ออาชญากรรมต่อชุมชนชาวเอเชียนั้นเพิ่มมากขึ้น โดยมีกว่า 30 คดีในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงธันวาคม และในจำนวนนี้เป็นการก่อความรุนแรงจากความเกลียดชังชาวเอเชียอย่างน้อย 8 คดี 

 

“เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่เราต้องเผชิญกับทั้งวิกฤตทางการแพทย์จากโควิด-19 และวิกฤตเหยียดเชื้อชาติจากโควิด-19″ เมย์ ชิว หนึ่งในผู้ประท้วงเชื้อสายเอเชีย กล่าว พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น เรียกร้องไปยังรัฐบาลของรัฐควิเบก ให้ยอมรับว่ามีการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลแคนาดาไม่เคยทำ

 

ทั้งนี้ ปัญหาการเกลียดชังชาวเอเชียนั้นไม่ใช่เพียงปัญหาใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีรายงานกรณีก่ออาชญากรรมจากกระแสเกลียดชังชาวตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้นในหลายชาติตะวันตก อาทิ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ส่วนหลายประเทศยุโรป ไม่พบว่ามีการรวบรวมข้อมูลกรณีก่อความรุนแรงจากปัญหาเหยียดเชื้อชาติ

 

ในกรุงลอนดอน ทางการเปิดเผยว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมากว่า 200 คดี ซึ่งเพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 96% 

 

เผิง หวัง ศาสตราจารย์วัย 37 ปี ของมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ทางตอนใต้ของอังกฤษ ตกเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกชาย 4 คนรุมทำร้ายระหว่างวิ่งอยู่ใกล้บ้านในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุตะโกนถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ เช่น คำว่า “ไวรัสจีน” ใส่เขา ก่อนที่เขาจะตะโกนตอบกลับ ทำให้ชายทั้งสี่ลงจากรถและรุมทำร้ายจนใบหน้าของหวังเต็มไปด้วยเลือด ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจสามารถจับกุมชาย 2 คนที่รุมทำร้ายเขาได้

 

“สิ่งที่พวกเขาทำไม่มีอารยะ มันไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน พวกเขาปฏิบัติกับผมเหมือนสัตว์” หวังกล่าว พร้อมชี้ว่า หนึ่งในชนวนความเกลียดชังเอเชียปะทุขึ้นในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเขาเรียกโควิด-19 ว่า “ไวรัสจีน” และนั่นเป็นสิ่งที่ผิดอย่างยิ่ง

 

 

ภาพ: Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X