กองทัพสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ เปิดฉากการฝึกซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวันนี้ (11 เมษายน) โดยมีกำลังทหารเข้าร่วมกว่า 1.7 หมื่นนาย แบ่งเป็นทหารอเมริกัน 1.2 หมื่นนาย และทหารฟิลิปปินส์ 5.4 พันนาย ขณะที่กองทัพเรือออสเตรเลียจะส่งทหารมากกว่า 100 นาย เข้าร่วมในการซ้อมรบที่จะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน นอกจากนี้ยังมีบุคลากรทางทหารจากอีก 12 ประเทศ ที่เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย
สำหรับปฏิบัติการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ซึ่งเรียกว่า การฝึกซ้อมบาลิกาตัน (Balikatan Exercise) ประจำปี มีกำหนดการล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้ โดยจัดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่จีนเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมจำลองการปิดล้อมไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน พบปะกับ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระหว่างการแวะเยือนรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนประเทศแถบอเมริกากลาง
โดยสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งแสดงความยับยั้งชั่งใจ ในขณะที่ประธานาธิบดีไช่ได้แสดงท่าทีต่อการกระทำของจีนว่า ‘ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ’
ทั้งนี้ ในการซ้อมรบของจีนวันสุดท้ายเมื่อวานนี้ (10 เมษายน) กองทัพสหรัฐฯ ยังได้ส่งเรือพิฆาต USS Milius ออกปฏิบัติภารกิจเสรีภาพการเดินเรือ ด้วยการเดินทางผ่านน่านน้ำในทะเลจีนใต้ และเคลื่อนผ่านหมู่เกาะสแปรตลี (Spratly) ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ และเป็นพื้นที่พิพาทที่จีนอ้างสิทธิ์ครอบครองเช่นกัน
ขณะที่จีนยังได้แสดงท่าทีเตือนว่าความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์นั้นไม่ควรมีการแทรกแซงข้อพิพาทน่านน้ำในทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ มีขึ้นหลังทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงด้านกลาโหมฉบับใหม่ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลวอชิงตันยังประสบความสำเร็จในการลงนามข้อตกลงที่จะจัดตั้งฐานทัพเรือใหม่ 4 แห่งบนเกาะของฟิลิปปินส์
ภาพ: Ezra Acayan / Getty Images
อ้างอิง: