จับตาผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ รีพับลิกันคว้าเก้าอี้ ส.ส.-แซงเดโมแครต วุฒิสมาชิกยังสูสี

บรรยากาศการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่เปิดฉากเมื่อวานนี้ (8 พฤศจิกายน) เป็นไปอย่างดุเดือดหลังจากที่ปิดหีบลงคะแนน โดยล่าสุดในรัฐต่างๆ มากกว่าครึ่ง เริ่มทยอยประกาศผลการนับคะแนนแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าเป็นพรรครีพับลิกันที่สามารถคว้าเก้าอี้ในฝั่งสภาผู้แทนราษฎร แซงหน้าพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนในวุฒิสภา ทั้งสองพรรคยังคงขับเคี่ยวกันอย่างสูสี

ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรที่มีการโหวตเลือก ส.ส. ทั้งหมด 435 ที่นั่ง ปรากฏว่าผลนับคะแนนขั้นต้นล่าสุดเมื่อเวลา 09.50 น. ตามเวลาในไทย เป็นรีพับลิกันที่ได้เก้าอี้ ส.ส. ไปแล้ว 130 ที่นั่ง แซงหน้าเดโมแครตที่เอาชนะได้เพียง 75 ที่นั่ง ทำให้มีสัญญาณความเป็นไปได้ ที่รัฐบาลไบเดนอาจสูญเสียอำนาจเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบาย และผ่านกฎหมายสำคัญต่างๆ ในช่วงวาระ 2 ปีหลัง

ใน 6 รัฐสำคัญที่ก่อนหน้านี้ถูกจับตามองว่ามีความสูสี และอาจชี้ชะตาผลการเลือกตั้ง ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน และเนวาดา ปรากฏว่าผู้สมัคร ส.ส. ของรีพับลิกันสามารถเอาชนะไปได้ทั้งในรัฐเนวาดา เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน จอร์เจีย และมิชิแกน

ทางด้านวุฒิสภา มีการโหวตเลือกวุฒิสมาชิกจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง และมี 65 ที่นั่งที่ไม่ได้แข่งขันในการเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็นฝั่งเดโมแครต 36 ที่นั่ง และรีพับลิกัน 29 ที่นั่ง

ล่าสุด ปรากฏว่ารีพับลิกันคว้าชัยชนะไปแล้ว 11 ที่นั่ง รวมจำนวนวุฒิสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด 40 ที่นั่ง ในขณะที่เดโมแครตคว้าชัยชนะไปได้ 4 ที่นั่ง รวมที่มีอยู่ทั้งหมดเป็น 40 ที่นั่งเช่นกัน ซึ่งพรรคใดที่ได้วุฒิสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งหรือ 50 ที่นั่ง จะเป็นฝ่ายกุมอำนาจเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ CNN รายงานผล Exit Polls สำรวจความคิดเห็นผู้ใช้สิทธิลงคะแนนนอกคูหา พบว่าในหลายรัฐ อาทิ โอไฮโอ และนอร์ทแคโรไลนา มีมุมมองในแง่ลบต่อไบเดนและพรรคเดโมแครต จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

ขณะที่มากกว่าครึ่งของผู้ลงคะแนน มีความเชื่อมั่นในพรรครีพับลิกัน ว่าสามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาอาชญากรรมที่เป็นอยู่ได้มากกว่า ส่วนในประเด็นการปกป้องสิทธิการทำแท้งที่เป็นนโยบายของเดโมแครตนั้น มากกว่าครึ่งยังเชื่อมั่นในพรรคเดโมแครต

ภาพ: Angela Weiss / AFP

อ้างอิง