ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ชาวอเมริกันกำลังจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งใหญ่กันอีกครั้ง ซึ่งถึงแม้ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่ได้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรวมอยู่ด้วย แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการชี้ชะตาว่าพรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกันจะเป็นผู้ครอบครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งก็จะส่งผลอย่างมากในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลของโจ ไบเดนในอีกครึ่งเทอมที่เหลือ
เดโมแครตมีเสียงข้างมากชนิดปริ่มน้ำที่สภาสูง
ไบเดนเริ่มต้นการทำหน้าที่ประธานาธิบดีด้วยอำนาจที่เหมือนจะมากล้น เพราะพรรคเดโมแครตของเขาครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา อย่างไรก็ดี ถ้าเรามองเข้าไปในรายละเอียดจะพบว่าพรรคเดโมแครตไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาสูงอย่างแท้จริง เพราะพวกเขามีเสียงปริ่มน้ำที่ 50 เสียงพอดี ทำให้นโยบายซ้ายจัดของพวกเขาหลายๆ นโยบาย เช่น การลงทุนในพลังงานสะอาด (Green New Deal) หรือนโยบายประชานิยมที่ไบเดนเคยหาเสียงไว้อย่าง Build Back Better ถูกปฏิเสธโดยนักการเมืองสายกลางในพรรคอย่าง ส.ว. โจ แมนชิน จากมลรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย และ ส.ว. เคิร์สเตน ซินีมา จากมลรัฐแอริโซนา
การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ไบเดนและพรรคเดโมแครตจะได้ครอบครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาอย่างแท้จริง ถ้าหากพวกเขาชิงที่นั่งมาจากพรรครีพับลิกันได้ 2 ที่นั่ง เพื่อมาทดแทนเสียงของ ส.ว. แมนชิน และ ส.ว. ซินีมา
เดโมแครตมีโอกาสที่เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน
ในทางปฏิบัติแล้ว ความหวังของเดโมแครตที่จะชิงที่นั่งมาจากรีพับลิกันได้จริงๆ คงมีอยู่แค่ 2 มลรัฐ คือเพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน
ที่เพนซิลเวเนีย เดโมแครตโชคดีมากที่ ส.ว. เจ้าของเก้าอี้อย่าง แพท ทูมีย์ ตัดสินใจที่จะเกษียณตัวเองด้วยเหตุที่เขามีข้อขัดแย้งกับผู้นำพรรคอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่เนืองๆ ซึ่งถ้าทูมีย์ตัดสินใจลงรับสมัครเลือกตั้งอีกสมัยก็คงไม่ยากเย็นนักที่รีพับลิกันจะรักษาเก้าอี้นี้ไว้ได้ เพราะทูมีย์เป็นนักการเมืองที่ค่อนไปในทางสายกลางและมีคะแนนนิยมส่วนตัวที่ค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม ทูมีย์ตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้ง และพรรครีพับลิกันก็ได้ตัดสินใจส่งเซเลบริตี้อย่าง นพ.เมห์เมต ออซ เจ้าของทอล์กโชว์ชื่อดังอย่าง Dr. Oz ลงเป็นตัวแทนของพรรค ซึ่ง นพ.ออซ นั้นถือเป็นผู้สมัครที่มีเรื่องอื้อฉาวติดตัวมาจากการทำรายการโทรทัศน์ ที่เขามักจะรับโฆษณาให้กับยาและอาหารเสริมที่เข้าข่ายลวงโลกอยู่เรื่อยๆ รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเป็นพวกนักฉวยโอกาสทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ นพ.ออซ ได้อาศัยอยู่ในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ก่อนที่เขาจะย้ายทะเบียนมาเป็นชาวเพนซิลเวเนียในช่วงก่อนจะลงรับสมัครเลือกเพียงไม่นาน ในทางตรงข้าม พรรคเดโมแครตได้ส่งผู้สมัครอย่าง จอห์น เฟตเทอร์แมน ซึ่งเป็นรองผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันที่มีภาพลักษณ์ของการเป็นคนติดดิน (Blue Collar) และถือว่าเป็นผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงในหมู่ชนชั้นแรงงานผิวขาวที่ในระยะหลังเอนเอียงไปลงคะแนนให้ทรัมป์มากกว่าพรรคเดโมแครตอย่างในอดีต
ในส่วนของมลรัฐวิสคอนซินนั้น ส.ว. เจ้าของตำแหน่งอย่าง รอน จอห์นสัน จะลงเลือกตั้งอีกครั้งเพื่อป้องกันแชมป์ให้พรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม จอห์นสันไม่ใช่นักการเมืองที่มีคะแนนนิยมสูงเหมือนทูมีย์ (ผลการสำรวจล่าสุด เขามีคะแนนนิยมเพียงแค่ 30% เท่านั้น) ซึ่งสาเหตุที่คะแนนนิยมของจอห์นสันค่อนข้างต่ำนั้นเป็นเพราะว่าเขาเป็นนักการเมืองซ้ายจัด ในขณะที่ตัวมลรัฐวิสคอนซินเป็นมลรัฐสีม่วงที่มีจำนวนของชาวอเมริกันที่มีแนวคิดแบบกลางๆ อยู่ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ จอห์นสันยังถูกจับได้ว่าเขามีส่วนพัวพันในกรณีจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ซึ่งเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาตกต่ำลงไปอีก
ในส่วนของพรรคเดโมแครตนั้น พวกเขากำลังจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัครไปแข่งกับจอห์นสันในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ เป็นที่คาดการณ์กันว่าพวกเขาจะส่งชายผิวสีอย่าง แมนเดลา บาร์นส์ ซึ่งเป็นรองผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันเข้าแข่ง และนั่นก็น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ฐานเสียงคนผิวสีของพวกเขาในเมืองมิลวอกีออกมาลงคะแนนเสียงได้เป็นอย่างดี
แต่คะแนนนิยมที่ตกต่ำของไบเดนอาจทำให้เดโมแครตแพ้ที่มลรัฐสีม่วง
ในทางตรงกันข้าม ส.ว. เจ้าของตำแหน่งเดิมจากพรรคเดโมแครตในมลรัฐที่เดโมแครตและรีพับลิกันมีฐานเสียงพอๆ กัน (มลรัฐสีม่วง หรือ Swing States) อาจจะต้องเสียเก้าอี้ให้กับผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน จนทำให้พรรครีพับลิกันพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากที่สภาสูงแทน ซึ่งนั่นก็จะแปลว่าไบเดนจะพบความยากลำบากยิ่งกว่าเดิมเสียอีกที่จะผลักดันนโยบายใดๆ ออกมา รวมถึงความยากลำบากที่เขาจะแต่งตั้งผู้พิพากษาที่ต้องอาศัยความยินยอมจากวุฒิสภา
ซึ่งโดยปกติแล้ว พรรคของประธานาธิบดีก็มักจะสูญเสียที่นั่งทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในการเลือกตั้งกลางเทอม เพราะชาวอเมริกันมักที่จะเลือกพรรคตรงข้ามไปคานอำนาจกับประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ประธานาธิบดีมีคะแนนนิยมตกต่ำ และชาวอเมริกันมองว่าประธานาธิบดีกำลังนำประเทศไปผิดทาง (ซึ่งในกรณีของไบเดน ชาวอเมริกันกว่า 2 ใน 3 มองว่าเขาดำเนินนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด)
ส.ว. แคทเทอรีน คอร์เทซ มาสโต จากมลรัฐเนวาดา, ส.ว. ราฟาเอล วอร์นอค จากมลรัฐจอร์เจีย, ส.ว. มาร์ค เคลลี จากมลรัฐแอริโซนา และ ส.ว. แมกกี แฮซเซน จากมลรัฐนิวแฮมป์เชอร์ คือ 4 ส.ว. จากมลรัฐสีม่วงที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียเก้าอี้ โดยเฉพาะในกรณีของ ส.ว. มาสโต ที่ต้องพึ่งคะแนนจากชาวฮิสแปนิกในเมืองลาสเวกัส แต่ว่าคนกลุ่มนี้กำลังหันเหไปลงคะแนนให้รีพับลิกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ รอบการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ในทางตรงข้าม ส.ว. วอร์นอค, ส.ว. แฮซเซน และ ส.ว. เคลลี ดูจะโชคดีที่พรรครีพับลิกันได้ส่งผู้สมัครที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งนักมาลงแข่งขัน, ในกรณีของ ส.ว. วอร์นอค ที่มลรัฐจอร์เจีย พรรครีพับลิกันได้ส่งอดีตนักอเมริกันฟุตบอลอย่าง เฮอร์เชล วอล์กเกอร์ มาเป็นผู้สมัคร ซึ่งวอล์กเกอร์มีเรื่องอื้อฉาวมาก่อนจากคดีทำร้ายร่างกายภรรยา และเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งถูกเปิดโปงว่าเขามีบุตรนอกสมรสกับภรรยาน้อย ส่วนในมลรัฐแอริโซนาและนิวแฮมป์เชอร์นั้น ก็มีแนวโน้มสูงว่าพรรคจะส่งผู้สมัครที่เชื่อในทฤษฎีสมคบว่าไบเดนโกงการเลือกตั้งในปี 2020 อย่าง เบลค มาสเตอร์ส และ โดนัลด์ บัลดัก ลงแข่งขัน
ผลการเลือกตั้งกลางสมัยที่ชี้ชะตาช่วงครึ่งเทอมที่เหลือของไบเดนจะเป็นอย่างไร เดโมแครตจะสามารถรักษาเสียงข้างมากทั้งสองสภาได้หรือไม่ หรือจะเป็นรีพับลิกันที่กลับมาครองเสียงข้างมากในสภาล่างหรือสภาสูงเพื่อคานอำนาจไบเดน น่าติดตามต่ออย่างใกล้ชิด ซึ่งเดือนพฤศจิกายนเราจะได้คำตอบกัน และ THE STANDARD จะเกาะติดเช่นเคย
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images