สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Alan Estevez ปลัดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพื่ออุตสาหกรรมและความมั่นคง ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของสหรัฐฯ เตรียมเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ เพื่อขอให้ชาติพันธมิตรทั้งสองของสหรัฐฯ ร่วมด้วยช่วยกันเพิ่มข้อจำกัดใหม่ในภาคเซมิคอนดักเตอร์ของจีน รวมถึงความสามารถในการผลิตชิปหน่วยความจำระดับไฮเอนด์ที่จำเป็นสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
รายงานระบุว่า ทาง Estevez มีแนวโน้มจะโน้มน้าวรัฐบาลญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ในการเพิ่มข้อจำกัดกิจกรรมเพิ่มเติมของบรรดาซัพพลายเออร์บริษัท ASML Holding NV ของเนเธอร์แลนด์ และบริษัท Tokyo Electron Ltd. ของญี่ปุ่น เพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นสูง
โดยคำขอดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับพันธมิตรเพื่อสกัดความพยายามของบรรดาโรงงานผลิตชิปจีนที่กำลังพัฒนาสิ่งที่เรียกว่าชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (High-Bandwidth Memory Chips) ซึ่งรวมถึง Wuhan Xinxin Semiconductor Manufacturing ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Yangtze Memory Technologies Co. ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำของจีน ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Huawei Technologies Co. และ ChangXin Memory Technologies Inc. ก็มีรายงานเรื่องการพัฒนาชิปออกมาเช่นกัน
ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ทุ่มเทความพยายามมาอย่างยาวนานในการจำกัดความสามารถของจีนในการซื้อและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง โดยอ้างว่าการดำเนินการดังกล่าวมีความจำเป็นต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ กระนั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังมีผลลัพธ์จากความพยายามดังกล่าวไม่ชัดเจน โดยมีบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Huawei ที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิปอย่างแข็งขัน
Gregory Allen ผู้อำนวยการศูนย์ Wadhwani สำหรับ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาถือเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก แต่ก็ยังห่างไกลจากประเทศหลักที่มีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เป็นหลักสำคัญอย่างญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศยังเป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อีกด้วย โดย Allen ชี้ว่า แม้ทั้งสองประเทศจะออกกฎระเบียบควบคุมการส่งออกชิปแล้ว แต่ยังไม่มีข้อจำกัดในส่วนของการบริการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการจำกัดการเข้าถึงสถาปัตยกรรมการควบคุมเทคโนโลยีโดยรวมในการผลิตชิป
รายงานระบุว่า ขณะนี้ทางสหรัฐฯ ได้ยกระดับการพูดคุยกับชาติพันธมิตรที่มีการออกกฎระเบียบเพื่อสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศของจีน โดยสหรัฐฯ หวังให้มีการสร้างการปิดล้อมระดับโลกที่มีประสิทธิผล โดยคาดว่าทาง Estevez จะเร่งเจรจากับเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นในการยกระดับความเข้มงวดของข้อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ในส่วนของการเยือนเนเธอร์แลนด์ของคณะผู้แทนสหรัฐฯ คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเนเธอร์แลนด์สาบานตนในเดือนกรกฎาคม โดย Reinette Klever จากพรรค Freedom Party ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของ Geert Wilders จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาการค้าต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลนโยบายควบคุมการส่งออกของประเทศ
ญี่ปุ่น-เนเธอร์แลนด์ ยังประวิงเวลา
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในระบุว่า ทางรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และรัฐบาลญี่ปุ่นต่างต่อต้านกับแรงกดดันของสหรัฐฯ ที่อยากให้เพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบในเร็ววัน โดยทั้งสองประเทศต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบของการห้ามส่งออกอุปกรณ์การผลิตชิประดับไฮเอนด์ในปัจจุบัน รวมถึงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เพื่อดูว่าสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือกฎระเบียบใหม่หรือไม่
ทั้งนี้ ภายใต้กฎระเบียบของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนในปัจจุบัน บริษัทจีนไม่สามารถซื้อชิป AI ที่ทันสมัยที่สุดจาก NVIDIA ได้อีกต่อไป เช่นเดียวกันกับบริษัท Hynix, Samsung และ Micron ของเกาหลีใต้ที่ได้หยุดจัดหาชิปให้กับ Huawei หลังจากที่สหรัฐฯ เข้มงวดการคว่ำบาตรบริษัทจีนในปี 2020 แล้วเช่นกัน กระนั้นก็มีรายงานว่า ข้อจำกัดที่เกิดขึ้นได้ผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Huawei กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตัวเองที่เรียกว่า Ascend แต่ในระหว่างการพัฒนานี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าบริษัทใดกำลังจัดหาชิปหน่วยความจำขั้นสูงให้กับ Huawei
อ้างอิง: