สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในที่ออกมาเปิดเผยว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา กำลังวางแผนที่จะอนุมัติบังคับใช้กฎหมายใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะช่วยขยายอำนาจของสหรัฐฯ ในการสั่งระงับการส่งออกอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐฯ และบางประเทศไปยังผู้ผลิตชิปในจีน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่าการขนส่งจากชาติพันธมิตรที่ส่งออกอุปกรณ์การผลิตชิปที่สำคัญ รวมถึงญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ จะไม่รวมอยู่ในกฎหมายฉบับดังกล่าวเพื่อจำกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปรายใหญ่ เช่น ASML และ Tokyo Electron จะไม่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้หุ้นของทั้งสองบริษัทขยับพุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 กรกฎาคม)
รายงานระบุว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นการขยาย Foreign Direct Product ซึ่งเป็นระเบียบมาตรการที่ว่าด้วยการนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์โดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมการห้ามโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีนประมาณ 6 แห่งที่เป็นศูนย์กลางของความพยายามในการผลิตชิปที่ซับซ้อนที่สุดของจีนจากการส่งออกจากหลายประเทศ โดยประเทศที่จะได้รับผลกระทบด้านการส่งออก ได้แก่ อิสราเอล ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ขาย iPhone ในจีนไม่ง่ายอีกแล้ว Apple โดนแบรนด์เจ้าถิ่นเบียดแซงหน้าหลุดท็อป 5
- จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ ป่วนทำหุ้นกลุ่ม ‘ชิป’ ผันผวนระยะสั้น ผวานโยบายจำกัดส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปจีน
ขณะเดียวกัน Foreign Direct Product ยังเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถสั่งยุติการขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หากว่าการดำเนินการดังกล่าวมีผลคุกคามความมั่นคงของประเทศ
โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงฯ กำลังประเมินสภาพแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องและอัปเดตการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ตามความจำเป็น เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ และปกป้องระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของตนเอง รวมถึงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่มีค่านิยมเดียวกัน
ด้าน หลินเจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า แพ็กเกจกฎหมายการส่งออกดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ในการบีบบังคับประเทศอื่นๆ ให้จัดการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ถือเป็นการกระทำที่บ่อนทำลายการค้าโลกและทำร้ายทุกฝ่าย ก่อนแสดงความหวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะต่อต้านความพยายามของสหรัฐฯ และปกป้องผลประโยชน์ระยะยาวของตนเองและการค้าโลก
หลินเจียนระบุอีกว่า “การควบคุมและการปราบปรามไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนาของจีนได้ แต่จะช่วยเพิ่มความมุ่งมั่นและความสามารถของจีนในการพัฒนาการพึ่งพาตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น”
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขัดขวางการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์และ AI ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อกองทัพจีน สหรัฐฯ จึงบังคับใช้การควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูงและอุปกรณ์การผลิตชิปสำหรับจีนในปี 2022 และ 2023 โดยจำกัดการจัดส่งจากบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง NVIDIA และ Lam Research
กระนั้น ด้วยความที่ตระหนักดีว่าการควบคุมการส่งออกที่ตกลงกันโดยประเทศสำคัญๆ หลายแห่งมีความจำเป็นและมีเงื่อนไขบางประการที่ต้องคำนึงถึงแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงสำหรับญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ในการจำกัดเครื่องมือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไว้เฉพาะในจีนเท่านั้น แต่ในขณะนี้ สหรัฐฯ พยายามเพิ่มข้อจำกัดเพิ่มเติมให้กับข้อตกลงดังกล่าวด้วยการให้เยอรมนีและเกาหลีใต้เข้าร่วมแนวรบดังกล่าว
เจมส์ ลูวิส นักวิจัยจากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า กฎระเบียบใหม่ที่กำลังร่างอยู่ในขณะนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกรุงวอชิงตันพยายามรักษาแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่สร้างความขัดแย้งให้กับบรรดาชาติพันธมิตร
ภาพ: blackdovfx / Getty Images
อ้างอิง: